ศาสนาพุทธสอนถึง อัตตา สอนอัตตาเสียก่อนจึงค่อยสอน อนัตตา อัตตาคือตัวตนท่านสอนเบื้องต้นให้พึ่งตนเอง ตนของตนเป็นที่พึ่งของตน นี่เรียกว่าสอนถึงตัวตน เมื่อสอนอัตตาแล้ว ให้คิดค้นถึงตัวอัตตาที่ว่าเป็นของตนของตัวนั้นมีอะไรเป็นของแน่นอนถาวรแล้วเป็นตนเป็นตัวจริงไหม คิดค้นไปถึงอัตตาแล้ว ไม่มีอะไรเป็นสาระ เช่น ขันธ์ห้า รูปก็ไม่ใช่ถาวรแน่นอนแก่เเฒ่าชำรุดทรุดโทรมไปเป็นลำดับ ห้ามไม่ได้ บอกไม่ฟัง ในผลที่สุดก็ดับสลายหายไป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เป็นนามธรรมก็ทำนองเดียวกัน เวทนาเกิดขึ้นเพราะมีเหตุปัจจัย เมื่อเหตุปัจจัยไม่มีเวทนาก็หายไป สัญญา สังขาร วิญญาณ ก็เสื่อมสูญไปหมด ในผลที่สุดก็ไม่มีสิ่งใดที่แน่นอนถาวร เห็นขันธ์ห้าเป็นของไม่แน่นอนถาวรถึงจะวางได้ วางนั้นแหละคือตัวอนัตตา ปล่อยวางคือตัวอนัตตาทั้งรูปทั้งนาม สอนเรื่องภาวนาจิตก็เป็นอนัตตา สอนไม่ได้ห้ามไม่ฟัง ไม่ให้คิดนึกก็คิดนึก พอเราปล่อยวางเราไม่ยึดเอาเป็นของเราจิตที่คิดนึกส่งส่ายก็เลยหมดเรื่องไป ถ้าเราไปยึดก็กลายเป็นของเราขึ้นมา ถ้าไม่ยึดก็เลยเป็นอนัตตา เมื่อถึงอนัตตาเมื่อไรแล้วจะรู้สึกด้วยตนเองว่าอะไรเป็นอนัตตา อะไรเป็นอัตตา เห็นชัดด้วยตนเอง แต่อัตตาหรืออนัตตานั่นแหละเป็นเครื่องวัดเทียบกันอยู่ตลอดเวลา ถ้ามีแต่อนัตตาถ่ายเดียวไม่มีอัตตาเสียแล้ว เราก็จะไม่มีเครื่องวัดเครื่องเทียบ เมื่อไม่มีเครื่องวัดเครื่องเทียบก็ไม่รู้จักว่าอะไรเป็นอะไร อัตตามีสุขขนาดไหน มีทุกข์ขนาดไหน : หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=35317&sid=56688cc4d179954fadc47cecb672004f