ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,082
    ค่าพลัง:
    +97,151
    ในเมืองสะกาย ของพม่า "เวลานี้ทุกๆครั้งที่ลมพัดมา กลิ่นศพของผู้เสียชีวิตจะเหม็นคลุ้งไปทั่ว" ตามรายงานของสำนักข่าวอัลจาซีราห์ อ้างอิงคำสัมภาษณ์ของชาวบ้านรายหนึ่งในเมืองแห่งนี้ ที่อยู่ใกล้ที่สุดกับศูนย์กลางของแผ่นดินไหวทำลายล้างรุนแรงระดับ 7.7 ที่สั่นสะเทือนพม่าเมื่อวันศุกร์(28มี.ค.) และส่งผลกระทบมาถึงประเทศไทย ทั้งนี้ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดพุ่งเกิน 1,700 ราย ท่ามกลางรายงานว่าผู้คนถูกทอดทิ้งให้ขุดคุ้ยซากช่วยเหลือญาติด้วยตนเอง เนื่องจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยไม่เพียงพอ
    "ณ เวลานี้ เก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิตได้มากกว่าช่วยเหลือผู้รอดชีวิต" Thar Nge ชาวบ้านรายหนึ่งบอกกับอัลจาซีราห์ในวันอาทิตย์(30มี.ค.) พร้อมเผยว่าทีมกู้ภัยจากมัณฑะเลย์ที่อยู่ใกล้เคียง เพิ่งเดินทางมาถึงเมืองสะกายก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน หลังจากสะพานยานาบอน ที่ทอดข้ามแม่น้ำอิรวดี เพิ่งกลับมาเปิดใช้งาน
    สะพานอังวะ ที่อยู่ใกล้กัน ซึ่งสร้างขึ้นสมัยเป็นอาณานิคมของอังกฤษเมื่อราวๆ 90 ปีก่อน เป็นหนึ่งในสิ่งปลูกสร้างจำนวนมากที่พังถล่มลงมา ครั้งที่เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงในวันศุกร์(28มี.ค.) ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตเวลานี้อยู่ที่อย่างน้อย 1,700 ราย และบาดเจ็บมากกว่า 3,400 คน อย่างไรก็ตามแน่นอนว่าตัวเลขผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นสูงกว่านี้มาก ครั้งที่ขอบเขตความเสียหายที่แท้จริงเริ่มกระจ่างออกมาในอีกไม่กี่ชั่วโมงหรือไม่กี่วันข้างหน้า
    "ทีมกู้ภัยจากมัณฑะเลย์ ไม่สามารถเข้าถึงเราในทันที เพราะว่าสะพานถล่ม นั่นคือเหตุผลว่าทำไมพวกเขาเพิ่งมาถึงในวันนี้" Thar Nge กล่าวระหว่างเดินสำรวจเมือง พร้อมกับยอมรับว่าเวลานี้เขาละทิ้งความหวังเจอลูกชายในสภาพที่มีชีวิตอยู่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในขณะที่คนจำนวนมากภายในเมือง ก็ต่างสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักเช่นกัน
    เท่าที่ Thar Nge รู้ มีร่างไร้วิญญาณเกือบ 90 ศพที่กู้ออกมาได้ สวนทางกับจำนวนผู้คนเพียงแค่ 36 คน ที่ได้รับความช่วยเหลือออกมาเป็นๆ จากบ้านพัก อาคารธุรกิจและวัดพุทธต่างๆนานา ในพื้นที่ดังกล่าว "คนจำนวนมาก เช่นเดียวกับพระและแม่ชีในสะกาย ติดอยู่ใต้อาคาร ในนั้นรวมถึงวัดวาอารามและสำนักชี โฟกัสในตอนนี้กำลังเปลี่ยนจากช่วยเหลือผู้รอดชีวิต ไปสู่การกู้ศพและฝังร่างผู้เสียชีวิต"
    ผู้สื่อข่าวอัลจาซีราห์รายงานว่าได้กลิ่นศพเหม็นคลุ้งทุกหนทุกแห่งในเมืองสะกาย
    ในมัณฑะเลย์ เมืองใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของพม่า ตั้งอยู่ห่างออกไปทางตะวันออกราวๆ 22 กิโลเมตร ปัญหาขาดแคลนเครื่องไม้เครื่องมือพิเศษ ทำให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยและญาติๆของผู้คนที่ติดอยู่ใต้ซาก ต้องใช้มือเปล่าขุดคุ้ยค้นหาผู้รอดชีวิต
    นอกเหนือจากถนนพังย่อยยับแล้ว กลุ่มก้อนอาคารต่างๆทั้งได้รับความเสียหายร้ายแรงหรือไม่ก็พังทลายลง ไฟฟ้าถูกตัดขาดจากพื้นที่ส่วนใหญ่ของมัณฑะเลย์และสะกาย ท่ามกลางอุณหภูมิร้อนระอุแตะระดับสูงสุด 39 องศาเซลเซียสในวันอาทิตย์(30มี.ค.)
    ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน Ko Lin Maw ชาวบ้านอีกคน เผยว่าตนเองแทบทำอะไรไม่ได้เลย ยกเว้นแต่รอคอยช่วยเหลืออยู่ที่บ้านที่พังถล่มลงมาในมัณฑะเลย์ "แม่ของผมและลูกชาย 2 คนของผม ยังคงติดอยู่ใต้ซากหักพัง" เขาให้สัมภาษณ์กับอัลจาซีราห์
    แม้ว่ายังมีสัญญาณโทรศัพท์มือถือให้โทรขอความช่วยเหลือ แต่ทีมกู้ภัยที่มีอยู่ในน้อยนิดในมัณฑะเลย์ ได้ให้ความสำคัญลำดับต้นๆไปที่พื้นที่ประสบภัยขนาดใหญ่กว่า บริเวณที่เชื่อว่ามีคนจำนวนมากติดอยู่ใต้ซากหักพัง
    "ชัดเจนว่าจำนวนเจ้าหน้าที่กุ้ภัยไม่เพียงพอช่วยเหยื่อ" Ko Lin Maw กล่าว พร้อมคร่้ำครวญว่าผ่านไปแล้ว 48 ชั่วโมง นับตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหว แต่เจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉินก็ยังคงไม่เพียงพอ และสิ่งของบรรเทาทุกข์ยังเดินทางมาไม่ถึงเมืองแห่งนี้
    Htet Wai เจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิงของพม่า เดินทางจากย่างกุ้ง ซึ่งอยู่ห่างออกไป 627 กิโลเมตร และมาถึงมัณฑะเลย์ ในตอนเช้าวันอาทิตย์(30มี.ค.) แต่ด้วยการโทรคมนาคมขัดข้องอย่างรุนแรงตามหลังแผ่นดินไหว โทรศัพท์มือถือแทบใช้งานไม่ได้และการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตสะดุด ทาง Htet Wai เผยว่าทีมงานของเขาต้องพึ่งพิงข้อมูลที่โพสต์บนเฟซบุ๊ก เพื่อตัดสินใจว่าจุดใดที่ต้องการความช่วยเหลือจากพวกเขามากที่สุด
    "ตอนเช้าวันนี้ ทันทีที่เราเดินทางมาถึง เราไปยังพื้นที่หนึ่งที่เราพบว่ามีคนออนไลน์" Htet Wai กล่าว แต่ความพยายามกู้ภัยครั้งแรกลงเอยด้วยการไปเก็บกู้ศพแทน "ด้วยอากาศร้อนเช่นนี้ ผมเกรงว่าเราจะไปเจอร่างผู้เสียชีวิตมากกว่าผู้รอดชีวิต เราพวกเขาจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเพื่อปกป้องชีวิตให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้" เขาบอกกับอัลจาซีราห์
    นอกเหนือจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่มีความเชี่ยวชาญและเครื่องมือหนักสำหรับเครื่องย้ายเศษซากแล้ว ถุงใส่ศพก็มีความจำเป็นเช่นกัน Htet Wai ระบุ
    ในขณะที่นักอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ว่าแถบตอนกลางของพม่า จะพบเห็นอุณหภูมิตอนกลางวันแตะระดับ 40 องศาเซลเซียสหรือมากกว่านั้นในสัปดาห์นี้ ทาง Htet Wai บอกว่าร่างไร้วิญญาณของผู้เสียชีวิต ที่ยังคงติดอยู่ใต้ซากหักพัง กำลังเน่าเปื่อยอย่างรวดเร็ว
    "เราพบศพที่เน่าเปื่อยแล้ว มันใจสลาย" เขากล่าว "มันเป็นสิ่งที่เกินกว่าที่เราจะจัดการได้เพียงลำพัง" Htet Wai ระบุ
    (ที่มา:อัลจาซีราห์)
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,082
    ค่าพลัง:
    +97,151
    เกิดแผ่นดินไหวระดับ 7.0 นอกชายฝั่งใกล้ตองกา จากการเปิดเผยของสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาแห่งสหรัฐฯเมื่อวันอาทิตย์(30มี.ค.) โดยพวกเจ้าหน้าที่ในประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกแห่งนี้ ได้ประกาศเตือนสึนามิช่วงสั้นๆ ก่อนยกเลิกในเวลาต่อมา
    แผ่นดินไหวระดับตื้นนี้ เกิดขึ้นห่างจากหมู่บ้านปาไง ของตองกา ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ค่อนไปทางใต้ ราวๆ 79 กิโลเมตร ณ เวลา 12.19 จีเอ็มที(ตรงกับเมืองไทย 19.19น.) ของวันอาทิตย์(30มี.ค.)
    เบื้องต้นศูนย์เตือนภัยสึนามิของสหรัฐฯ ระบุว่า "มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดคลื่นสึนามิที่เป็นอันตรายจากแผ่นดินไหว ภายในรัศมี 300 กิโลเมตรจากศูนย์กลาง ตามแนวชายฝั่งต่างๆของตองกา" อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมา ได้มีการทบทวนคำประเมิน บอกว่า "ภัยคุกคามสึนามิจากแผ่นดินไหวนี้ เวลานี้ผ่านพ้นไปแล้ว" แต่พวกเจ้าหน้าที่ในตองกา ได้มีประกาศเตือนเพิ่มเติม
    สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของตองกา บอกกับพวกชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยง ให้อพยพลึกเข้าไปในผืนแผ่นดิน ไปยังพื้นที่สูง อาคารแข็งแกรงสูงอย่างน้อย 3 ชั้น หรือไปยังศูนย์อพยพสึนามิ "ขอแนะนำให้ชาวประมงที่อยู่กลางทะเล เคลื่อนย้ายไปยังน้ำลึกห่างจากแนวปะการังหรือชายฝั่ง และให้อยู่ตรงนั้นไปจนกว่าจะปลอดภัย" ถ้อยแถลงระบุบนเฟซบุ๊ก ก่อนยกเลิกคำแนะนำในเวลาต่อมา
    กระทรวงการท่องเที่ยวของตองกา เผยแพร่แผนที่อพยพบนเฟซบุ๊ก สำหรับผู้คนในกรุงนูกูอาโลฟา
    แผ่นดินไหวเป็นเรื่องปกติในตองกา หมู่เกาะราบต่ำอันที่ถิ่นพักอาศัยของผู้คนราวๆ 100,000 คน ที่ตั้งคร่อมสิ่งที่เรียกว่า "วงแหวนแห่งไฟ"
    วงแหวนแห่งไฟคือแนวโค้งที่มีการแปรสัณฐานแผ่นธรณีภาคอย่างเข้มข้น ที่ทอดยาวผ่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และทั่วแอ่งแปซิฟิก

    (ที่มา:รอยเตอร์)
    https://www.facebook.com/share/p/1ARZi6uGcT/
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,082
    ค่าพลัง:
    +97,151
    Mar 31, 2025 รอดูสักพัก! แบงก์ชาติ ยอมรับเหตุแผ่นดินไหว ซ้ำเติมภาคอสังหาฯ คนชะลอซื้อคอนโดฯ ตึกสูง แต่ยังเร็วไปประเมินผลกระทบเศรษฐกิจ

    นายสักกะภพ พันธ์ยานุกูล ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)หรือ แบงก์ชาติ ยอมรับว่าเหตุแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะตึกสูง เช่น คอนโดมิเนียม อาคารสำนักงาน ที่ได้รับผลกระทบจากความกังวลของประชาชน รวมทั้งนักลงทุน ในประเด็นโครงสร้างของอาคาร และความปลอดภัยในการเข้าใช้อาคารต่าง ๆ ซึ่งจะทำให้เกิดภาวะของการชะลอการเช่าและการซื้ออาคารสูง

    โดยในภาคอสังหาริมทรัพย์เองเป็นภาคที่ฟื้นตัวได้ค่อนข้างช้า เป็น K-shape รวมถึงปัญหาที่เราเห็นอยู่ คือ อุปทานคงค้างในส่วนของคอนโดฯ สูงด้วย ซึ่งเป็นการซ้ำเติมปัญหาในภาคนี้อยู่ เพราะฉะนั้น เมื่อมองไปข้างหน้า ความเชื่อมั่นและมาตรการดูแลความปลอดภัย และโครงสร้างต่าง ๆ จึงเป็นสิ่งที่ต้องติดตามและรอดู Sentiment ว่าจะกลับมาได้ขนาดไหน

    ส่วนเหตุแผ่นดินไหวจะทำให้ประสิทธิผลของการผ่อนคลายมาตรการ LTV ในรอบล่าสุดต้องลดน้อยลงไปหรือไม่นั้น แบงก์ชาติ ไม่ได้คาดหวังว่าจะส่งผลต่อเศรษฐกิจมากอยู่แล้ว แต่เป็นเพียงการช่วยเหลือภาคอสังหาฯ ที่มีปัญหาอุปทานคงค้างในระดับสูง

    อย่างไรก็ตาม ในแง่ของผลกระทบ อาจจะยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่ามีมากน้อยเพียงใด แต่สิ่งที่เกิดขึ้นแน่นอน คือการชะลอการตัดสินใจซื้อคอนโดฯ อาคารสูง แต่ต้องติดตามเรื่องความเชื่อมั่น และความปลอดภัยจะฟื้นตัวได้เร็วขนาดไหน" ผู้ช่วยผู้ว่าการ ธปท. ระบุ

    ขณะนี้อาจยังเร็วเกินไปที่จะประเมินตัวเลขผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มี.ค.68 เนื่องจากผลกระทบจะส่งผ่านไปยังหลายช่องทาง โดยผลกระทบทางตรงจะเกิดกับทรัพย์สินของประชาชน รวมทั้งกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงไปบ้าง ซึ่งตัวเลขความเสียหายจะทยอยเข้ามาเพิ่มขึ้น คงต้องรอดูตัวเลขที่ชัดเจนก่อน นอกจากนี้ ยังมีผลกระทบทางอ้อมที่จะเกิดกับความเชื่อมั่น ตลอดจนพฤติกรรมต่าง ๆ ของภาคธุรกิจและประชาชนที่อาจเปลี่ยนไป โดยเฉพาะผลต่อภาคการท่องเที่ยว

    อีกทั้ง เหตุแผ่นดินไหวอาจะมีผลให้การบริโภคชะลอตัวลงในระยะสั้น เนื่องจากประชาชนจะนำเงินไปใช้สำหรับการซ่อมแซมที่อยู่อาศัยที่ได้รับความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวในครั้งนี้ แม้บางส่วนจะมีสภาพคล่องที่ได้รับกลับคืนมาจากการเคลมประกัน รวมทั้งมาตรการจากภาครัฐที่เข้ามาช่วยเหลือก็ตาม โดยยังคงต้องติดตามสถานการณ์อื่น ๆ ที่จะเข้ามามีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยด้วย โดยเฉพาะกรณีการขึ้นภาษีของทรัมป์ ซึ่งต้องนำมาประเมินผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยต่อไป

    ส่วนสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จะมีผลทำให้ต้องใช้การผ่อนคลายนโยบายการเงิน (ลดดอกเบี้ย) ต่อเนื่องหรือไม่นั้น นายสักกะภพ มองว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) รอบล่าสุดเมื่อวันที่ 26 ก.พ.68 ที่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% นั้น คณะกรรมการฯ ก็ได้ให้น้ำหนักทางด้านเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น เพราะมองว่ามีความเสี่ยงทางเศรษฐกิจสูงขึ้น ซึ่งเมื่อมีข้อมูลใหม่เพิ่มเข้ามา (เหตุแผ่นดินไหว) ก็จะได้นำไปประมวลในที่ประชุม กนง. ครั้งหน้าที่จะมีขึ้นในวันที่ 30 เม.ย.นี้ ในการพิจารณากำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่เหมาะสมต่อไป

    #แผ่นดินไหว #อสังหาฯ #เศรษฐกิจ #กำลังซื้อ #คอนโด #BTimes

    https://www.facebook.com/share/p/18MF57xTgq/
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,082
    ค่าพลัง:
    +97,151
    Mar 31, 2025 เสียหายเยอะ ! วิจัยกสิกรไทย ประเมินความสูญเสียทางเศรษฐกิจจากเหตุแผ่นดินไหว เบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท
    .
    จากกรณีวันที่ 28 มีนาคม 2568 แผ่นดินไหว 8.2 ริกเตอร์ ศูนย์กลางที่เมืองสะกาย เมียนมา ทำให้ประเทศไทยประสบเหตุการณ์แผ่นดินไหวและแรงสั่นสะเทือนรุนแรงในหลายเมือง โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯ (ระดับความรุนแรง 4.5-5.0 Modified Mercalli Intensity Scale – MMI) เชียงใหม่ (5.2-5.7 MMI) ซึ่งส่งผลให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิต ทรัพย์สิน อันประเมินค่าไม่ได้ นั้น
    .
    ในส่วนของผลกระทบทางเศรษฐกิจนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ในเบื้องต้นความสูญเสียที่เกิดขึ้นอาจคิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท หลักๆ มาจากการหยุดชะงักหรือเลื่อนออกไปของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในภาคการบริการในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล หัวเมืองหลักอย่างเช่นเชียงใหม่ เป็นต้น ทั้งงานอีเวนท์ ร้านอาหาร ค้าปลีก การคมนาคมขนส่ง ฯลฯ รวมถึงกำลังซื้อที่อาจลดลง เนื่องจากธุรกิจและครัวเรือนจะต้องโยกกระแสเงินสด/รายได้ ไปใช้เพื่อการตรวจสอบความเสียหายและซ่อมแซมอาคาร ทั้งนี้ หากรวมความเสียหายต่ออาคาร ทรัพย์สิน การทรุดตัว/การสั่นสะเทือนของอาคารบางแห่งเพิ่มเติม รวมถึงการซ่อมแซมและการเคลมประกันหลังจากนี้ ผลกระทบจะมากกว่านี้
    .
    ส่วนผลต่อภาคธุรกิจ เรามองว่า แม้การซ่อมแซมฟื้นฟูความเสียหาย และความต้องการในการหาที่พักสำรอง จะทำให้การก่อสร้าง วัสดุก่อสร้าง ที่พักแนวราบ ได้รับอานิสงส์ แต่ผลกระทบด้านลบคงจะมีต่อยอดขายและการโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่อาจช้าลงในบางโครงการ อีกทั้งความต้องการเช่า (ไม่ต้องการเป็นเจ้าของ) คงจะมีมากขึ้น ขณะที่ จากข้อมูล REIC พบว่า จำนวนอาคารชุดสะสมรอขายในกรุงเทพฯ อยู่ที่กว่า 6.5 หมื่นหน่วย มูลค่า 3.75 แสนล้านบาท
    .
    ขณะที่ ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทย เป็นอีกกลุ่มที่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในระยะสั้นตามความเชื่อมั่นต่อการเดินทางและการหาที่พักในพื้นที่ที่เกิดความเสียหาย ขณะที่โรงแรมในกรุงเทพฯส่วนใหญ่เป็นอาคารสูง แม้จะไม่ใช่ช่วงไฮซีซั่น จากเดิมก็มี Downside อยู่แล้วหลังตลาดนักท่องเที่ยวหลักของไทย เช่น จีน มาเลเซีย เกาหลีใต้ เริ่มลดต่ำลงในช่วงเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคมที่ผ่านมา โดยมีความเสี่ยงมากขึ้นที่ประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งปี 2568 ที่ 37.5 ล้านคน ของศูนย์วิจัยกสิกรไทย จะถูกทบทวนปรับลง
    .
    ด้านมาตรการช่วยเหลือจากสถาบันการเงิน คงช่วยบรรเทาผลกระทบได้บางส่วน อย่างไรก็ตาม ประเด็นกำลังซื้อที่เปราะบางและหนี้ที่สูง จะยังเป็นแรงกดดันต่อการใช้จ่ายในภาพรวมของครัวเรือนและธุรกิจในระยะข้างหน้า ซึ่งศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า สถานการณ์ข้างหน้าในช่วงที่เหลือของปีนี้ ความเสี่ยงด้านลบจะมีมากขึ้นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจไทย อุตสาหกรรมหลัก รวมถึงการขยายสินเชื่อและคุณภาพหนี้
    .
    ทั้งนี้ ผลกระทบต่อ GDP จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวประเมินเบื้องต้นอยู่ที่ -0.06% ซึ่งทำให้ประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2568 มีโอกาสปรับลดลงต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 2.4% อย่างไรก็ตาม ศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังรอติดตามการประกาศผลการปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ (Reciprocal tariff) ในวันที่ 2 เมษายนนี้ หากไทยโดนภาษีในอัตรา 25% ก็จะส่งผลกระทบต่อ GDP เพิ่มเติมอีกราว -0.3%
    .
    จากผลกระทบสถานการณ์แผ่นดินไหวประกอบกับความเสี่ยงสงครามการค้า ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า กนง. มีโอกาสสูงขึ้นที่จะปรับลดดอกเบี้ยนโยบายเร็วขึ้นกว่าเดิมที่คาดว่าจะปรับลดในช่วงครึ่งหลังของปี มาเป็นรอบการประชุมในเดือนเมษายนนี้ ในขณะที่ กนง. มีโอกาสที่จะปรับลดดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติมอีกอย่างน้อย 1 ครั้งในช่วงที่เหลือของปี 2568 ท่ามกลางช่องว่างของนโยบาย (policy space) ที่ลดลง
    .
    สำหรับ ผลกระทบต่อภาคการเงิน ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า
    *ธุรกิจประกัน: แม้ในปัจจุบัน ผู้ได้รับผลกระทบยังอยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหว ก่อนแจ้งเคลม แต่คาดว่าผลกระทบต่อธุรกิจประกันน่าจะอยู่ในกรอบที่บริหารจัดการได้ เนื่องจากเป็นเหตุที่ไม่เกิดบ่อยในไทย และบริษัทประกันไทยส่วนใหญ่มีการกระจายความเสี่ยงด้วยการทำประกันภัยต่อ (Reinsure) ไปยังต่างประเทศ ขณะที่ อัตราเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (RBC) ของธุรกิจประกันชีวิต และประกันวินาศภัย สูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำถึงประมาณ 3 เท่า
    .
    ทั้งนี้ แม้ภัยธรรมชาติจะมีผลให้ลูกค้าตื่นตัวในการทำประกันภัยมากขึ้นทั้งกลุ่มอัคคีภัยและ Industrial All Risks Insurance (IAR) แต่บริษัทประกันฯ คงต้องบริหารจัดการ Loss Ratio อาทิ จากกลุ่มอัคคีภัย ที่มีทิศทางเพิ่มขึ้น ตามความถี่ของภัยธรรมชาติ รวมถึงควบคุมความเสี่ยงจากธุรกิจอื่นๆ ที่น่าห่วงมากกว่าและมีขนาดใหญ่อย่างเช่นประกันภัยรถยนต์ ประกันอุบัติเหตุและสุขภาพ
    .
    *ธุรกิจธนาคารพาณิชย์: มาตรการให้ความช่วยเหลือทางการเงินที่เพิ่งประกาศออกมา อาจมีผลเฉพาะหน้าบางส่วนในการประคองภาพสินเชื่อรวม อย่างไรก็ตาม ภาพรวมสินเชื่อยังถูกกดดันจากอำนาจซื้อและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ทำให้ยังคงมองการเติบโตของสินเชื่อระบบแบงก์ไทยปีนี้ที่ 0.6%
    .
    ขณะที่ ประเด็นติดตามจะอยู่ที่คุณภาพหนี้ โดยเฉพาะในส่วนหนี้ภาคอสังหาริมทรัพย์ ก่อสร้าง และสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งเดิมก็มีแนวโน้มถดถอยลงหลังจากช่วงโควิด และศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินก่อนหน้านี้ว่า สัดส่วน NPLs ของระบบแบงก์มีโอกาสปรับจาก 2.7% ณ สิ้นปี 2567 มาแตะที่ขอบบนของกรอบ 2.65-2.85% สิ้นปี 2568 มากขึ้น รวมทั้งการไถ่ถอนหุ้นกู้ของภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบในระยะที่เหลือของปีนี้ และ และผลจากการลดดอกเบี้ยในประเทศเพิ่มเติม หากเศรษฐกิจไทยส่งสัญญาณการชะลอตัวที่ชัดเจนขึ้น อันจะกระทบต่อรายได้ดอกเบี้ยสุทธิของระบบแบงก์ไทยเพิ่มเติม
    .
    อ่านเพิ่มเติม คลิก https://shorturl.asia/F10kn
    .
    Website: https://btimes.biz
    Facebook: https://web.facebook.com/btimesch3
    YouTube: https://www.youtube.com/@BTimes_ch3
    TikTok : https://www.tiktok.com/@btimes_ch3
    .
    #ศูนย์วิจัยกสิกรไทย #เศรษฐกิจไทย #แผ่นดินไหว #อสังหาฯ #เศรษฐกิจ #กำลังซื้อ #คอนโด #BTimes

    https://www.facebook.com/share/p/1EeD55RBCN/
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,082
    ค่าพลัง:
    +97,151
    Mar 31, 2025 เช็กสภาพ! 'พีระพันธุ์' สั่งหน่วยงานกระทรวงพลังงานลงพื้นที่ ตรวจสอบความปลอดภัยระบบ ถัง ท่อ และอุปกรณ์ปั๊มน้ำมัน หลังเหตุแผ่นดินไหว
    .
    จากกรณีเกิดเหตุแผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 เวลา 13.20 น. จุดศูนย์กลางอยู่บริเวณประเทศเมียนมา ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของอำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้รับผลกระทบแรงสั่นไหวในหลายพื้นที่ของประเทศรวมถึงกรุงเทพมหานคร จนทำให้อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างเกิดเหตุถล่ม บริเวณถนนกำแพงเพชร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
    .
    วันนี้ (31 มีนาคม 2568) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้มอบหมายให้ นางสาวอรพินทร์ เพชรทัต เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วยนายสราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน และเจ้าหน้าที่กรมธุรกิจพลังงาน ลงพื้นที่ตรวจสอบผลกระทบของสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง จากกรณีเหตุแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น จำนวน 2 แห่ง ที่ตั้งอยู่บริเวณพื้นที่ใกล้เคียงอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ ในเขตจตุจักร ประกอบด้วย
    1. สถานีบริการน้ำมันบางจาก และสถานีบริการก๊าซธรรมชาติ (NGV) ถนนกำแพงเพชร 2. สถานีบริการก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ถนนกำแพงเพชร 2 (ด้านหลังนิคมการรถไฟ กม.11)
    .
    ทั้งนี้ นางสาวอรพินทร์ เพชรทัต เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ระบุว่าจากผลการตรวจสอบความปลอดภัยของระบบ ถัง ท่อ และอุปกรณ์ภายในสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงดังกล่าว ไม่ได้รับความเสียหายจากกรณีเหตุแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นและสามารถเปิดให้บริการเป็นปกติ ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้สั่งการให้กรมธุรกิจพลังงานประสานกับพลังงานจังหวัดทั่วประเทศให้มีการกำหนดมาตรการสุ่มตรวจสอบสถานีบริการตามมาตรฐานสากลของสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงทั่วประเทศ เพื่อสร้างความปลอดภัยและความพร้อมในการให้บริการน้ำมันเชื้อเพลิงแก่ประชาชนผู้เข้ามารับบริการ
    .
    นอกจากนี้ นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน ยังได้เน้นย้ำว่ากรมธุรกิจพลังงาน ได้ให้ความสำคัญกับการติดตามตรวจสอบด้านความปลอดภัยของกิจการควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว ตามนโยบายของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานที่ได้ให้ความสำคัญในเรื่องผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่มีต่อกิจการพลังงานและประชาชน โดยปลัดกระทรวงพลังงานก็ได้สั่งการให้กำกับดูแลกิจการควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิงให้มีความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นระบบท่อ คลัง สถานีบริการ โดยปัจจุบันยังไม่พบรายงานผลกระทบใดๆ ที่มีนัยสำคัญอันจะก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยต่อประชาชน โดยได้ประสานติดตามสำนักงานพลังงานจังหวัดในการลงพื้นที่ตรวจสอบสถานีบริการเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนทั่วประเทศในด้านความปลอดภัยของกิจการควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิงต่อไป
    .
    อ่านเพิ่มเติม คลิก https://shorturl.asia/Tc7tm
    .
    Website: https://btimes.biz
    Facebook: https://web.facebook.com/btimesch3
    YouTube: https://www.youtube.com/@BTimes_ch3
    TikTok : https://www.tiktok.com/@btimes_ch3
    .
    #พลังงาน #ปั๊มน้ำมัน #สถานีบริการน้ำมัน #อาฟเตอร์ช็อก #กรุงเทพมหานคร #แผ่นดินไหว #BTimes

    https://www.facebook.com/share/p/16LeSb7LyY/
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,082
    ค่าพลัง:
    +97,151
    FB_IMG_1743429345603.jpg

    สำหรับกรุงเทพมหานคร ผู้ว่าราชการจังหวัด
    ได้ออกประกาศ ให้เจ้าของอาคาร หรือผู้ครอบครอง
    อาคารพิเศษเก้าชนิด ได้แก่
    1.อาคารสูง (อาคารที่บุคคลอาจเข้าอยู่หรือใช้สอยได้ที่มีความสูงตั้งแต่ 23 เมตรขึ้นไป การวัดความสูงของอาคารให้วัดจากระดับพื้นดินที่ก่อสร้างถึงพื้นดาดฟ้า สำหรับอาคารจั่วหรือปั้นหยาให้วัดจากระดับพื้นดินที่ก่อสร้างถึงยอดผนังของ ชั้นสูงสุด)
    2.อาคารขนาดใหญ่พิเศษ (อาคารที่ก่อสร้างขึ้นเพื่อใช้พื้นที่อาคารหรือส่วนใดของอาคารเป็นที่อยู่ อาศัยหรือประกอบกิจการประเภทเดียวหรือหลายประเภท โดยมีพื้นที่รวมกันทุกชั้นในหลังเดียวกันตั้งแต่หนึ่งหมื่นตารางเมตรขึ้นไป)
    3.อาคาร ชุมชนคน (อาคารหรือส่วนใดของอาคารที่บุคคลอาจเข้าไปภายในเพื่อใช้ประโยชน์ในการ ชุมนุมคนที่มีพื้นที่ตั้งแต่หนึ่งพันตารางเมตรขึ้นไป หรือชุมนุมคนได้ตั้งแต่ห้าร้อยคนขึ้นไป)
    4.โรงมหรสพ (อาคารหรือส่วนใดของอาคารที่ใช้เป็นที่สำหรับฉายภาพยนตร์ แสดงละคร แสดงดนตรี หรือการแสดงรื่นเริงอื่นใด และมีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดให้สาธารณะชนเข้าชมการแสดงนั้นเป็นปกติธุระ โดยจะมีค่าตอบแทนหรือไม่ก็ตาม)
    5.โรงแรม ตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรมที่มีจำนวนห้องพักตั้งแต่แปดสิบห้องขึ้นไป
    6.อาคาร ชุด ตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด หรืออาคารอยู่อาศัยรวม (อาคารหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของอาคารที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัยสำหรับหลายครอบ ครัว โดยแบ่งออกเป็นหน่วยแยกจากกันสำหรับแต่ละครอบครัว) ที่มีพื้นที่ตั้งแต่ 2,000 ตารางเมตรขึ้นไป
    สำหรับอาคารชุด และอาคารอยู่อาศัยรวมที่ไม่เข้าข่ายเป็นอาคารสูงหรืออาคารขนาดใหญ่พิเศษจะได้รับการผ่อนผันการตรวจสอบคือ - กรณีที่มีพื้นที่อาคารรวมกันในหลังเดียวกันไม่เกิน 5,000 ตารางเมตร ให้ทำการตรวจสอบและส่งผลการตรวจสอบก่อนวันที่ 25 ตุลาคม 2555 - กรณีที่มีพื้นที่อาคารรวมกันเกิน 5,000 ตารางเมตร ให้ทำการตรวจสอบและส่งผลการตรวจสอบก่อนวันที่ 25 ตุลาคม 2553
    7.อาคารโรงงานที่สูงกว่า 1 ชั้น และมีพื้นที่ตั้งแต 5,000 ตารางเมตรขึ้นไป
    8.ป้าย สูงตั้งแต่ 15 เมตรขึ้นไปหรือมีพื้นที่ตั้งแต่ 50 ตารางเมตรขึ้นไป หรือป้ายที่ติดหรือตั้งบนหลังคาหรือดาดฟ้าของอาคารที่มีพื้นที่ตั้งแต่ 25 ตารางเมตรขึ้นไป
    9.สถานบริการ ตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการที่มีพื้นที่ตั้งแต่ 200 ตารางเมตรขึ้นไป
    ทั้งนี้อาคารทั้ง 9 ประเภท (เว้นแต่อาคารตามข้อ 6 ที่ไม่เข้าข่ายเป็นอาคารสูงหรืออาคารขนาดใหญ่พิเศษ)
    จะต้องติดต่อผู้ตรวจสอบอาคาร ซึ่งได้รับใบอนุญาตให้เป็นผู้ตรวจสอบอาคารโดยเฉพาะ เข้าตรวจสอบ ความเสียหาย และประเมินวิธีการปรับปรุง แก้ไข ซ่อมแซม หรือเสริมกำลังของอาคาร ให้มั่นคงปลอดภัยแข็งแรง ภายในสองสัปดาห์
    -
    สำหรับลูกบ้าน คนในคอนโด พนักงานที่ต้องทำงานในตึกสูงหรืออาคารต่างๆที่เข้าข่ายอาคารเก้าประเภทนี้
    หากเจ้าของอาคารของคุณ ไม่จัดการตามประกาศ
    แนะนำให้แจ้งเจ้าหน้าที่เขตได้เลย
    ช่วยกันสอดส่องดูแลเพื่อความปลอดภัยของสังคมโดยรวมนะครับ
    https://www.facebook.com/share/198AnrGvYm/
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,082
    ค่าพลัง:
    +97,151
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,082
    ค่าพลัง:
    +97,151
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,082
    ค่าพลัง:
    +97,151
    ยอดดับแผ่นดินไหวในพม่าเพิ่มเป็นกว่า 2,700 ราย
    .
    .
    รอยเตอร์ - กลุ่มบรรเทาทุกข์ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดของพม่ากล่าวว่ามีความต้องการที่พักพิง อาหาร และน้ำอย่างเร่งด่วน หลังจากแผ่นดินไหวคร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 2,700 คน ขณะที่สงครามกลางเมืองของประเทศ ทำให้ความช่วยเหลือไปถึงในพื้นที่ที่ต้องการได้ยากลำบากขึ้น
    .
    พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารพม่ากล่าวในการแถลงข่าวทางโทรทัศน์ในวันอังคาร (1) ว่ายอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 2,719 คน และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 3,000 คน เขากล่าวว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4,521 คน และสูญหาย 441 คน
    .
    แผ่นดินไหวขนาด 7.7 แมกนิจูด ที่เกิดขึ้นช่วงเที่ยวของวันศุกร์ ที่ถือเป็นแผ่นดินไหวรุนแรงที่สุดที่เกิดขึ้นในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้ในรอบกว่าศตวรรษ ที่ทำลายทั้งเจดีย์โบราณและอาคารสมัยใหม่
    .
    สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (OCHA) ระบุว่า ในพื้นที่มัณฑะเลย์ของพม่า มีเด็กเสียชีวิต 50 คน และครู 2 คน หลังจากโรงเรียนอนุบาลของพวกเขาถล่มลงมาตอนเกิดแผ่นดินไหว
    .
    “ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด ชุมชนต่างๆ พยายามอย่างหนักเพื่อตอบสนองความต้องการพื้นฐาน เช่น การเข้าถึงน้ำสะอาดและสุขอนามัย ขณะที่ทีมกู้ภัยทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อค้นหาผู้รอดชีวิต และให้ความช่วยเหลือเพื่อช่วยชีวิต” OCHA ระบุ
    .
    คณะกรรมการกู้ภัยระหว่างประเทศกล่าวว่าสถานที่ต่างๆ รวมทั้งมัณฑะเลย์ ต้องการที่พักพิง อาหาร น้ำ และความช่วยเหลือทางการแพทย์
    .
    “ผู้คนหวาดกลัวอาฟเตอร์ช็อกหลังเผชิญกับความน่าสะพรึงกลัวของแผ่นดินไหว ทำให้ประชาชนต้องนอนนอกบ้านบนถนนหรือในพื้นที่โล่ง” เจ้าหน้าที่ IRC ในมัณฑะเลย์ กล่าว
    .
    สงครามกลางเมืองในพม่าที่รัฐบาลทหารเข้ายึดอำนาจในการรัฐประหารในปี 2564 ทำให้ความพยายามในการเข้าถึงผู้ได้รับบาดเจ็บและคนไร้ที่อยู่อาศัยจากแผ่นดินไหวมีความซับซ้อนมากขึ้น
    .
    องค์การนิรโทษกรรมสากลกล่าวว่ากองทัพจำเป็นต้องอนุญาตให้ความช่วยเหลือเข้าถึงพื้นที่ต่างๆ ของประเทศ ที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุม ขณะที่กลุ่มติดอาวุธกล่าวว่ารัฐบาลทหารโจมตีทางอากาศหลังจากเกิดแผ่นดินไหว
    .
    “กองทัพพม่ามีแนวทางปฏิบัติมายาวนานในการปฏิเสธความช่วยเหลือในพื้นที่ที่กลุ่มต่อต้านเคลื่อนไหวอยู่” โจ ฟรีแมน นักวิจัยขององค์การนิรโทษกรรมสากล ระบุ
    .
    “รัฐบาลทหารพม่าต้องอนุญาตให้องค์กรด้านมนุษยธรรมทั้งหมดเข้าถึงได้โดยไม่ถูกขัดขวางโดยทันทีและขจัดอุปสรรคในด้านการบริหารที่ทำให้การประเมินความต้องการล่าช้า”
    .
    การควบคุมอย่างเข้มงวดของรัฐบาลทหารต่อเครือข่ายการสื่อสารและความเสียหายที่เกิดขึ้นกับถนน สะพาน และโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ ที่เกิดจากแผ่นดินไหว ยิ่งเพิ่มความท้าทายให้กับเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์มากยิ่งขึ้น
    .
    ด้านเจ้าหน้าที่ของไทยกล่าวว่าการประชุมผู้นำระดับภูมิภาคที่กรุงเทพฯ ในช่วงปลายสัปดาห์นี้จะดำเนินการต่อไปตามแผน แต่พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย อาจเข้าร่วมการประชุมผ่านการประชุมทางไกล
    .
    ก่อนที่จะเกิดแผ่นดินไหว แหล่งข่าวระบุว่าผู้นำรัฐบาลทหารพม่าจะเดินทางไปเข้าร่วมการประชุมในกรุงเทพฯ ในวันที่ 3-4 เม.ย.
    https://www.facebook.com/share/p/16EdGBRPrV/
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,082
    ค่าพลัง:
    +97,151
    สื่อนอกสนใจ! นักข่าวสื่ออินเดียบุกถาม “หน่วยรบพิเศษอเมริกัน” ถึงจตุจักร ลือให้ “โดรน” ช่วยตึกสตง.ถล่มในไทย วันจันทร์เกิดอาฟเตอร์ช็อก 22 ครั้งเขย่า 4 จังหวัด
    .
    .
    .
    .
    .
    เอเจนซีส์/รอยเตอร์/MGRออนไลน์ – สื่อทั่วโลกให้ความสนใจข่าวแผ่นดินไหวพม่าคร่าชีวิตสุดกว่า 2,000 คน สื่ออินเดีย NDTV ชื่อดังบุกไทยจ่อไมค์ถามทหารหน่วยรบพิเศษสหรัฐฯถึงรายงาน สหรัฐฯส่งเทคโนโลยีโดรนให้ไทยช่วยค้นหาปฎิบัติการตึกถล่ม ล่าสุดเครื่องสแกนเนอร์ของสหรัฐฯค้นพบสัญญาณเหยื่อผู้รอดชีวิตใต้ซากตึกสตง.ถล่มวันจันทร์(31 มี.ค) ด้าน 4 จังหวัดภาคเหนือของไทยเกิดอาฟเตอร์ช็อกเขย่า 22 ครั้งวานนี้
    .
    สตาร์สแอนสตริปส์ สื่อด้านความมั่นคงสหรัฐฯรายงานวานนี้(31 มี.ค)ว่า วอชิงตันส่งกำลังทหารเข้าช่วยไทยและเงินบรรเทาทุกข์แก่พม่าในเหตุแผ่นดินไหวความแรง 7.7 แมกนิจูดในวันศุกร์(28 มี.ค) มีศูนย์กลางอยู่ในพม่า
    .
    เป็นการส่งมาเป็นจำนวนที่ไม่เปิดเผยจากกองบัญชาการอินโดแปซิฟิก INDOPACOM ของสหรัฐฯในการประสานร่วมกับฝ่ายกองทัพไทยและเจ้าหน้าที่กู้ภัยฉุกเฉิน
    .
    โดยในปฎิบัติการกู้ภัยนี้ยังเป็นครั้งแรกที่ทหารสหรัฐฯเดินทางเข้าไทยพร้อมทหารอิสราเอล
    .
    ไทม์สออฟอิสราเอลรายงานวันอาทิตย์(30 มี.ค) ว่า ทีมผสมร่วมกองทัพอิสราเอลและกระทรวงกลาโหมอิสราเอลที่ประกอบไปด้วย หน่วยการช่าง หมอ และผู้เชี่ยวชาญกู้ภัย จำนวนโดยรวมทั้งหมด 22 คนเดินทางถึงกรุงเทพฯเช้าวันอาทิตย์(30 มี.ค) ได้เริ่มต้นทำงานและให้ข้อมูลเชิงวิเคราะห์ที่เกี่ยวข้องต่อเจ้าหน้าที่ไทย
    .
    ด้านสำนักงานบรรเทาทุกข์อิสราเอล IsraAID ที่มีชื่อคล้ายกับของสหรัฐฯ USAID ที่เพิ่งโดนยุบไปส่งทีมฉุกเฉินช่วยเหลือในเหตุภัยพิบัติแผ่นดินไหวพม่าและไทย อ้างอิงจากสื่ออิสราเอล
    .
    สตาร์สแอนด์สตริปส์รายงานว่า “จากทุกสิ่งตั้งแต่เคลื่อนย้ายซากปรักหักพังมหาศาลไปจนถึงการฟื้นฟูกำลังพล” พันตรี แมทธิว เกร็กกอรี (Maj. Matthew Gregory) แถลงวันจันทร์(31 มี.ค)
    .
    สื่อความมั่นคงสหรัฐฯชี้ว่า จำนวนกำลังพลนี้ไม่เป็นที่แน่นอนเนื่องมาจากเพราะสถานการณ์ไม่หยุดนิ่งแต่เชื่อว่าที่ถูกส่งตัวมากรุงเทพฯนี้รวมถึง หน่วยทหารช่างสหรัฐฯ หน่วยผึ้งทะเลกองทัพเรือสหรัฐฯ U.S. Navy Seabees และหน่วยสุนัขK9และอื่นๆ
    .
    โฆษกแถลงย้ำแสดงความมั่นใจว่า “หน่วยผึ้งทะเล Navy Seabees มีกำลังพลเชี่ยวชาญในการค้นหาและช่วยเหลือ งานวิศวรกรรมการช่างและความสามารถอื่นๆจากรอบอินโดแปซิฟิกจะตอบสนองในช่วงเวลานี้และพวกเราจะยังคงให้การสนับสนุนผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว 7.7 แมกนิจูดตามคำร้องขอของพันธมิตรของพวกเรา”
    .
    อย่างไรก็ตาม โฆษกปฎิเสธที่จะแสดงความเห็นว่า หน่วยอินโดปาคอม(INDOPACOM)นี้จะเข้าไปพม่าเพื่อการช่วยเหลือหรือไม่ ซึ่งประเทศฝ่ายตรงข้ามทั้ง “จีน” และ “รัสเซีย” ได้ส่งทั้งกำลังคนและความช่วยเหลือเข้าพม่าอย่างคึกคักแทนที่สหรัฐฯที่แต่เดิมมี USAID เป็นตัวแทนของวอชิงตันทางด้านมนุษยธรรม
    .
    ส.ส รัฐนิวยอร์ก เกร็กกอรี มีคส์ (Gregory Meeks)สมาชิกคณะกรรมาธิการต่างประเทศประจำสภาล่างสหรัฐฯออกมาโจมตีวันศุกร์(28 มี.ค)การสั่งยุบ USAID ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ว่า เป็นการตัดสินใจอย่างไม่รอบคอบ และเปิดทางให้จีนและรัสเซียสามารถเข้าไปเติมเต็มได้
    .
    เมียนมาที่ยังคงสู้รบในสงครามกลางเมืองและถือเป็นพื้นที่สูญญากาศและอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติแต่ขาดอย่างหนักทั้งความเจริญและด้านมนุษยธรรม
    .
    NDTV สื่ออินเดียเป็นอีกหนึ่งในหลายแห่งของแดนภารตะที่เกาะติดเหตุการณ์แผ่นดินไหวในไทยอย่างละเอียด ซึ่งในวันอาทิตย์(30 มี.ค) NDTV ได้จั่วหัวรายงานอย่างเจ็บแสบว่า “China Connection Emerges In Bangkok Skyscraper That Collapsed During Quake” ว่า “ ‘จีนคอนเน็กชัน’ โผล่กลางตึกสูงระฟ้ากรุงเทพฯที่ถล่มระหว่างแผ่นดินไหว”
    .
    และในวันถัดมา(31 มี.ค) NDTV ส่งคลิปเปิดภาพนักข่าวอินเดียมาถึงจตุจักรจ่อไมค์ถามทหารหน่วยรบพิเศษสหรัฐฯถึงข่าวที่รายงานว่า เทคโนโลยีโดรนมีรายงานว่าเป็นของสหรัฐฯที่มอบให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นไทยใช้นั้นจริงหรือไม่ ก่อนรุกถามต่อถึงโอกาสที่จะพบผู้รอดชีวิตในตึกสตง.ที่ถล่ม ซึ่งฝ่ายทหารอเมริกันตอบกลับว่า เชื่อว่ายังมีความเป็นไปได้
    .
    นักข่าว NDTV ยังตั้งคำถามต่อว่า เป็นเพราะเทคโนโลยีให้ความช่วยเหลือไทยมาจากสหรัฐฯ และทำให้ต้องการทราบว่าจากการที่สังเกตเห็นพบมีเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐฯอยู่ด้วยทำให้สงสัยว่าจะมีสิ่งอื่นใดอีกบ้างที่ฝ่ายสหรัฐฯจะช่วยเหลือไทยในเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ซึ่งทหารหน่วยรบพิเศษตอบกลับมาว่า ฝ่ายสหรัฐฯจะให้ความช่วยเหลือตามการร้องขอของทางการไทย
    .
    รอยเตอร์รายงานวันอังคาร(1)ว่า เครื่องเอ็กซเรย์และสุนัขดมกลิ่นถูกส่งเข้าไปในตึกสตง. จำนวน 33 ชั้นที่เกิดถล่ม
    .
    รองผู้ว่าการกทม. รศ.ทวิดา กมลเวชช กล่าวว่า ทีมกู้ภัยเริ่งรีบทำงานเพื่อหาช่องทางเข้าพื้นที่ซึ่งมีสัญญาณชีพถูกส่งออกมา 3 วันก่อนจากวันที่เกิดแผ่นดินไหวและตึกถล่ม
    .
    อย่างไรก็ตาม รองผู้ว่ายอมรับว่า ความหวังในการรอดชีวิตกำลังจะหมดไปหลัง 72 ช.ม แต่ยืนยันว่าจะยังคงทำงานไม่หยุดหลัง 72 ช.มผ่านไปแล้ว
    .
    ทั้งนี้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติแถลงอ้างอิงจากสื่อไทยภาคภาษาอังกฤษว่า ไทยในวันจันทร์(31 มี.ค)เกิดอาฟเตอร์ช็อกถึง 22 ครั้ง แต่ในเบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหายหรือการเสียชีวิต
    .
    เกิดขึ้นที่ 4 จังหวัดตอนบนทางภาคเหนือได้แก่
    #จ.แม่ฮ่องสอนหนักสุด 12 ครั้ง อาฟเตอร์ช็อกความแรง 1.6 แมกนิจูด – 2.9 แมกนิจูด
    #จ.แพร่ จำนวน 6 ครั้ง อาฟเตอร์ช็อกความแรง 1.9 แมกนิจูด – 2.8 แมกนิจูด
    #จ.เชียงใหม่ จำนวน 3 ครั้ง อาฟเตอร์ช็อกความแรง 2.1 แมกนิจูด – 2.4 แมกนิจูด
    #จ.ตาก จำนวน 1 ครั้ง อาฟเตอร์ช็อกความแรง 2.1 แมกนิจูด

    https://www.facebook.com/share/p/1HwXpi4vSg/
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,082
    ค่าพลัง:
    +97,151
    “สหรัฐ”ฟาดหนัก ไทยกีดกันการค้า ฟันธงขึ้นภาษีแน่ 2 เม.ย
    MF1dXqze7PR16PSXvAFWLGqqVoG4-cacW5X4QFlj1EOwGIhLdqIugzs52Vev4&_nc_zt=23&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg

    2696.png ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างไทย-สหรัฐฯ กำลังเผชิญความท้าทาย เมื่อสหรัฐฯ เปิดเผยประเด็นอุปสรรคการค้าหลายประการจากไทย รวมถึงการกีดกันนำเข้าอาหาร, ปัญหาด้านระบบศุลกากร, การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา และการไม่ยอมเปิดตลาดหมูที่มีสารเร่งเนื้อแดง ส่งผลให้สหรัฐฯ เตรียมประกาศขึ้นภาษีสินค้าไทยในวันที่ 2 เมษายนนี้
    .
    1f4ca.png สหรัฐฯ ระบุว่ามาตรการเหล่านี้ไม่ได้เป็นเรื่องใหม่ แต่เป็นปัญหาที่มีมานาน ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่อาจทำให้การขึ้นภาษีไทยสูงถึง 15% ในอนาคต เพื่อปรับลดการขาดดุลการค้าและตอบโต้การค้าที่ไม่เป็นธรรม ในขณะที่ไทยยังคงเผชิญกับอุปสรรคทางการค้าในหลายๆ ด้าน รวมถึงความยากลำบากในการเปิดตลาดและการอำนวยความสะดวกให้กับธุรกิจต่างชาติ
    .
    1f680.png การตอบสนองของภาครัฐและเอกชนไทยกำลังเร่งหาโอกาสในการขยายตลาดใหม่ๆ โดยเรียนรู้จากโมเดลของจีนที่ลดการพึ่งพาตลาดสหรัฐฯ ซึ่งเป็นแนวทางที่น่าสนใจในการปรับตัวรับมือกับสถานการณ์นี้!
    https://www.thansettakij.com/eco.../trade-agriculture/623864
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,082
    ค่าพลัง:
    +97,151
    รัสเซียแสบ --- แหย่ทรัมป์เล่น?
    สั่งปิดท่าเรือส่งออกน้ำมันของบริษัทอเมริกา! แหม ให้รู้ว่า ข้าก็มี "ไพ่" ในมือ . . .
    สดๆ ร้อนๆ หลังจากที่ทรัมป์ขู่จะตั้งกำแพงภาษีประเทศที่ยังบังอาจนำเข้าน้ำมันรัสเซีย (หน้าหนึ่งของทรัมป์คือญาติดีกับรัสเซีย อีกหน้าหนึ่งคือทำเป็นกดดันเบาๆ ให้รีบจบศึกยูเครน ... ขณะที่ฉากหลัง ตอนนี้เริ่มคุยดีลแร่รัสเซีย) รัสเซียก็แย็บยั่วเบาๆ กลับเช่นกัน
    ล่าสุด สั่งปิดทุ่นเทียบเรือที่ท่าส่งออกน้ำมันในทะเลดำ สำหรับน้ำมันของคาซัคสถาน
    อ้าว น้ำมันคาซัคฯ ไปเกี่ยวอะไรกับท่ารัสเซีย? แล้วมันสัมพันธ์กับอเมริกายังไง?
    ต้องลองดูแผนที่จ้ะ --- คาซัคฯ มีน้ำมัน แต่ไม่มีทางออกทางทะเล (ติดทะเลสาบแคสเปียน ซึ่งออกสู่มหาสมุทรไม่ได้)
    จึงต้องต่อท่อ ข้ามแผ่นดินรัสเซีย เพื่อไปยังท่าเรือที่ออกสู่ทะเลดำ ส่งไปขายตลาดโลกได้
    ชะตาตน ส่งมอบไปไว้ในกำมือรัสเซียน่ะเอง!
    และอย่างที่ทุกท่านน่าจะเดาออก น้ำมันคาซัคฯ มีบริษัทคาซัคฯ รับผิดชอบ นั่นก็ใช่ส่วนหนึ่ง
    แต่ที่ใช่ยิ่งกว่าใช่ คือ มี "เชฟรอน" และ "เอ็กซอน" ของอเมริกาเข้ามาดูแลด้วยจ้ะ

    รัสเซียปิดทุ่นเทียบเรือที่ท่าส่งออกที่ปลายท่อน้ำมันของคาซัคฯ ถามว่าใครที่ดีดดิ้น?

    เพื่อความปลอดภัยครับท่าน --- เหตุผลที่รัสเซียแจ้งว่า "ปิด" เพื่อตรวจสอบ

    บอกว่าความปลอดภัย ก็คงความปลอดภัยแหละ ... โปรดอย่าสงสัย ยิ่งช่วงนี้แผ่นดินไหวที่พม่า มันอาจกระเทือน

    อ้อ เพิ่งไม่กี่วันก่อน ผู้แทนพิเศษด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการลงทุนระหว่างประเทศของรัสเซีย เผยว่าได้เปิดการเจรจากับอเมริกาแล้ว ในประเด็น "ร่วม" โปรเจ็กท์ขุดเจาะ "แรร์ เอิร์ธ" บนแผ่นดินรัสเซีย
    อืมม์

    แปลว่าเขากระเซ้ายั่วเย้ากันเล่นๆ แหละ ...

    https://www.reuters.com/.../russian-order-slashes-kazakh.../
    https://www.reuters.com/.../russia-us-start-talks-rare.../




     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,082
    ค่าพลัง:
    +97,151
    ฝรั่งตีกันเอง และเอเชียดีกันเอง สิ่งเหล่านี้เกิดเพราะทรัมป์!
    1.) ในภาพคือเชลฟ์ "ว่าง" ในซูเปอร์มาร์เก็ตที่แคนาดา ซึ่งเดิมเคยเป็นที่ของสินค้า "เมด อิน อเมริกา" แต่ตอนนี้โล่ง และถูกแทนที่ด้วยป้าย {ซื้อของแคนาดาแทน}
    2.) จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จะจับมือ "ร่วม" ตอบโต้กำแพงภาษีของอเมริกาไปด้วยกัน ... นี่เป็นภาพที่หาได้ยากยิ่ง
    สลายความขัดแย้ง ผนึกกำลังกันสู้อเมริกา

    แคนาดา ปกติก็อี๋อ๋อกับอเมริกา แต่พอทรัมป์มาก็คนละเรื่อง
    คงไม่ต้องสาธยายแล้วว่าทำอะไรบ้าง ...
    แก้แค้นยังไงดี?
    การตอบโต้ด้วยกำแพงภาษี (มาตรการของรัฐบาล) ก็งั้นๆ แหละ
    ไม่เท่าการรณรงค์ของ "ประชาชน"!!!
    ซึ่งจริงๆ พวกค้าปลีก ก็มีบทบาทสำคัญด้วย --- ไม่สั่งของอเมริกาเข้าร้าน!!!!!
    (*บอกยาก ว่ากระแสเริ่ม "แรง" จากลูกค้า แล้วร้านค้าตอบสนอง หรือร้านค้า "ปลุก" กระแสนี้เอง เพราะกำหนดเชลฟ์ตัวเองได้อยู่แล้ว แล้วลูกค้าก็ "รับลูก")
    (**ปฏิเสธไม่ได้ว่า ไม่ใช่ความ "ชาตินิยม" ล้างแค้นศัตรูอย่างเดียว --- แต่เรื่องตัวเงินด้วย --- ก็นำเข้าแล้วมันไม่คุ้ม เจอภาษีหฤโหด)

    ตั้งแต่ผ้าอ้อม ส้ม ยันวิสกี้ --- ของอเมริกาเริ่มเป็นเชลฟ์ "ร้าง" แล้ว
    ทั้งนี้ ในปี 2024 แคนาดานำเข้าสินค้าจากอเมริกา มูลค่าทั้งสิ้น 3.5 แสนล้านดอลลาร์
    ตัวเลขนี้กระเทือนแน่

    กำแพงภาษี สักวันก็ปลดได้
    แต่กำแพงในใจ ความบาดหมางนี้มิใช่เปลื้องได้โดยง่ายแน่
    ต่อให้อีก 3 เดือน สมมติ เลิกสงครามการค้าอเมริกา-แคนาดา
    แต่ความขุ่นเคืองใจ ที่จะไม่ซื้อสินค้าอเมริกา น่าจะเป็นปีๆ ถึงจะซา ...

    ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ปกติแล้วก็ตามอเมริกาต้อยๆ
    ว่าไงก็ว่างั้น
    และต่างก็เป็นปฏิปักษ์กับจีน (เพราะมีเสี้ยนหนามฝังใจ ในทางประวัติศาสตร์อยู่แล้ว)
    ส่วนญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้เอง ก็ไม่ใช่จะถูกกัน (ทางประวัติศาสตร์เช่นกัน)
    ที่ผ่านมา ความร่วมมือของทั้งสามชาติ พอมี แต่หลวมๆ และไม่เป็นเรื่องเป็นราว
    (แต่เวลาขัดแย้ง นี่ "จับต้อง" ได้ ชัดเจน)

    ไม่ได้หารือร่วมสามชาติในด้านเศรษฐกิจมาแล้ว 5 ปี
    วันอาทิตย์เพิ่งคุยกัน
    และล่าสุด สื่อทางการของจีนระบุว่า ทั้งสามชาติตกลงจะ "ร่วม" ต้านนโยบายกำแพงภาษีอเมริกาไปด้วยกัน
    ซึ่งอย่าลืม โต้ภาษี ไม่จำเป็นใช้ภาษีโต้เสมอไป
    มีทางให้อเมริกา "ดิ้น" ได้หลายประการ
    "ชิป"!!!
    (ญี่ปุ่นมีเครื่องผลิตชิปที่จีนต้องการ / เกาหลีใต้ก็เจ้าแห่งเม็มโมรี่ชิป)
    จีนเองก็มีอะไรไปเสนอแลกเปลี่ยนได้แยะ!

    ทรัมป์ใจกล้าบ้าบิ่นทีเดียว เปิดศึกทุกหน้า (ยกเว้นกับรัสเซีย)
    แล้วจะรับมือยังไงไหว?
    (ทรัมป์บอกว่าต้องเสียสละ ทนเจ็บบางจุด ... แต่คุ้มแน่รึ?)
    https://www.reuters.com/.../buy-canadian-grows-more-us.../

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,082
    ค่าพลัง:
    +97,151

แชร์หน้านี้

Loading...