ลูกอมเทียนชัยลพ บุญอุ้มพระปิดตาหลวงปู่ม่วงวัดยางงามเหรียญหลวงปู่จันทร์วัดศรีเทพเจดีย์บรรจุอัฐิ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Jumbo A, 17 สิงหาคม 2022.

  1. sunmk

    sunmk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    1,287
    ค่าพลัง:
    +1,083
    จองพระสมเด็จชินบัญชร รุ่นประวัติศาสตร์ ๖๐ พรรษา
     
  2. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,935
    ค่าพลัง:
    +21,367
    รับทราบครับขอบคุณครับ
     
  3. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,935
    ค่าพลัง:
    +21,367
    1741779856828.jpg


    หลวงพ่อเอีย-วัดบ้านด่าน.jpg
    เทพเจ้าแห่งเมืองหน่อไม้ไผ่ตง
    หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่านศรัทธาอุดม ปราจีนบุรี พระเถราจารย์ผู้มากด้วยบารมีธรรม มีอำนาจจิตแก่กล้า
    ประวัติ ปฏิปทา พระครูสังวรกิตติคุณ (หลวงพ่อเอีย) เกิดที่บ้านด่าน หมู่ ๕ ต.เกาะลอย อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี
    เมื่อวันอังคารที่ ๙ พฤษภาคม ๒๔๔๘ บิดาชื่อ เธียว
    มารดาชื่อ มา ขยันคิด ทั้งสองถึงแก่กรรมตั้งแต่หลวงพ่อเอียยังเยาว์
    บรรพชา/อุปสมบท
    หลวงพ่อได้บรรพชาเป็นสามเณร เมื่อวันที่ ๘ พฤษภาคม ๒๔๖๕
    ตอนนั้นอายุได้เพียง ๑๗ ปี เพราะจิตใจเลื่อมใสศรัทธาในพระศาสนา
    ศึกษาปริยัติธรรมเป็นที่เข้าใจดีแล้ว จึงได้ธุดงควัตรไปศึกษา
    กฤตยาคมศิลปศาสตร์ จากหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท
    และได้ถวายตัวเป็นศิษย์ปรนนิบัติรับใช้ และศึกษาวิชาไสยเวทย์อยู่กับหลวงปู่ศุข
    พอเข้าพรรษาก็กลับมาจำพรรษาที่วัดบ้านด่าน
    หลวงพ่อเอียเล่าว่า ท่านได้ศึกษาพุทธาคมกับหลวงปู่ศุของค์เดียว
    ในระยะที่ท่านเล่าเรียนไสยเวทย์กฤตยาคมกับหลวงปู่ศุขอยู่นั้น
    ท่านเห็นกรมหลวงชุมพรเขตต์อุดมศักดิ์ เสด็จไปๆมาๆหาหลวงปู่อยู่เสมอเป็นประจำ
    พร้อมกับ พ.ต.อ.พระกล้ากลางสมร ก็ได้ไปศึกษาไสยเวทอยู่กับหลวงปู่ศุข
    หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท ท่านสำเร็จวิชา ธาตุทั้ง 4 ดิน น้ำ ลม ไฟ
    ท่านสามารถผูกหุ่นให้เฝ้าวัดได้ สะเดาะกุญแจ ล่องหนหายตัวได้ ระเบิดน้ำได้
    ซึ่งครั้งหนึ่งท่านเคยระเบิดน้ำ ไปทำตะกรุดให้กับกรมหลวงชุมพรเขตต์อุดมศักดิ์
    ท่านสามารถทำได้สารพัดอย่าง
    เมื่อหลวงพ่อเอียอายุได้ ๒๐ ปี จึงอุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา
    เมื่อวันที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๔๖๘ ณ.พัทธสีมาวัดสัมพันธ์ ต.สัมพันธ์
    อ.ศรีมหาโพธิ ปราจีนบุรี พระครูสังวรกิจ เป็นพระอุปฌาย์ พระอธิการอ้วน
    วัดชัยมงคล เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการเคน เจ้าอาวาสวัดบ้านด่าน
    เป็นอนุสาวนาจารย์
    นอกจาก ท่านจะเล่าเรียนกฤตยาคมกับหลวงปู่ศุขแล้ว
    หลวงพ่อเอียยังเล่าว่าท่านได้พบอาจารย์อีกองค์หนึ่ง ซึ่งเชี่ยวชาญในด้านไสยเวทย์
    เหมือนกันชื่อ โกลั่นฟ้า เป็นการพบกันโดยบังเอิญ เป็นพระธุดงค์มาจากประเทศลาว
    ได้ธุดงค์รอนแรมมาปักกลด บริเวณวัดบ้านด่าน หลวงพ่อได้นิมนต์ให้จำพรรษาอยู่ที่วัด
    อยู่ได้ 6 เดือนกว่า ท่านก็กลับไป ขณะที่จำพรรษาอยู่ที่วัด ท่านได้ศึกษาวิชาไสยเวทย์
    จากพระอาจารย์ โกลั่นฟ้ามากมาย เมื่อครบกำหนดท่านกลับขณะที่หลวงพ่อกำลังครองจีวรอยู่
    เพื่อที่จะออกไปส่ง ปรากฏว่าพระอาจารย์โกลั่นฟ้าหายไปแล้ว หลวงพ่อรีบติดตามเท่าไรก็ไมทัน
    นับว่าพระอาจารย์โกลั่นฟ้า องค์นี้สำเร็จวิชา ย่นระยะทางได้อย่างแน่นอน
    เพราะเหตุที่หลวงพ่อเอีย ท่านเชี่ยวชาญในกฤตยาคมด้านไสยเวทย์
    โดยศึกษามาจากอาจารย์ต่างๆหลายท่าน ประกอบกับท่านมีวิชาอาคมแก่กล้า
    ในทางเพ่งกสิณทำน้ำมนต์อีกด้วย ชื่อเสียงเกียรติคุณของหลวงพ่อเอีย
    จึงเลื่องลือระบือไกล ผู้คนต่างหลั่งไหลไปให้ท่านรักษาแม้แต่คนบ้า
    เสียจริต สติฟั่นเฟือน ตลอดจนผู้ถูกคุณไสย ภูตผีปีศาจ
    หรือถูกกระทำย่ำยี ซึ่งต่างก็พากันหาย มานักต่อนักแล้ว
    หลวงพ่อไม่เคยเรียกร้องเงินทองเป็นค่ารักษาเลยแม้แต่รายเดียว
    บางรายเป็นหนักรักษาอยู่ที่วัดเป็นแรมเดือนก็มี บางรายเป็นไม่มากรักษาสาม
    สี่วันก็หาย แต่ทางวัดเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด หลวงพ่อต้องรับภาระ
    ใช้จ่ายเดือนละหลายหมื่นบาท นับว่าหลวงพ่อเป็นเทพเจ้าผู้สูงส่ง
    ด้วยเมตตาธรรมโดยแท้จริง
    หลวงพ่อเอีย ถึงแก่มรณภาพ เมื่อวันที่ ๑๗ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๒๑ สิริอายุรวม ๗๓ ปี.
    คำสั่งสุดท้ายของหลวงพ่อเอียท่านได้สั่งแก่ศิษย์ทั้งหลายว่า “ขอให้ศิษย์ทุกคนจงทำความดีด้วยกาย วาจา และใจ ใครกระทำแล้วย่อมประเสริฐกว่าคนทั้งหลาย และท่านเคยสอนว่า ความสามัคคีคือกำลังสำคัญทั้งทางโลกและทางธรรม ท่านว่าคนเรานี้จะอยู่ในสถานที่ใดๆ ก็ตาม จงทำความเจริญขึ้นให้แก่สถานที่นั้นด้วยความซื่อสัตย์สุจริต สิ่งทั้งหลายย่อมปรากฏ”
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    เหรียญหลวงพ่อเอียวัดบ้านด่านรุ่นรุ่งเรืองสุขปี๒๕๑๙ รุ่นนิยมอีกรุ่นของหลวงพ่อสภาพสวยเช่าบูชากันหลักพัน ถึงหลายพัน

    ให้บูชา 400 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ
    IMG_20250311_121041.jpg IMG_20250311_121117.jpg
     
  4. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,935
    ค่าพลัง:
    +21,367
    มูลนิธิรามาธิบดีฯ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า
    ขอเชิญร่วมบริจาคช่วยเหลือการซ่อมแซมอาคารหลัก คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี Faculty of Medicine Ramathibodi Hospital


    ชื่อบัญชี มูลนิธิรามาธิบดี

    กรุงเทพ 090-3-50015-5

    กสิกรไทย 879-2-00448-3

    ไทยพาณิชย์ 026-3-05216-3

    1741785082371.jpg
     
  5. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,935
    ค่าพลัง:
    +21,367
    FB_IMG_1741788209491.jpg FB_IMG_1741788212210.jpg

    ชาติกำเนิดและชีวิตปฐมวัย
    หลวงปู่กอง จันทวังโส มีนามเดิมว่า กอง ถนอมทรัพย์ เป็นบุตรคนที่ ๒ ใน ๓ คน ของคุณพ่อฝอย และคุณแม่ทัด ถนอมทรัพย์ เกิดเมื่อวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๔๔๒ ในแผ่นดินรัชกาลที่ ๕ บ้านเดิมอยู่ที่ ต.บ้านพราน อ.แสวงหา จ.อ่างทอง ซึ่งท่านก็ได้เรียนหนังสือและจบการศึกษาชั้นประถมปีที่ ๔ ที่โรงเรียนวัดบ้านพราน อ.แสวงหา จ.อ่างทอง นั่นเอง
    มูลเหตุบรรพชา
    ครั้นเมื่อมารดาของหลวงปู่เสียชีวิตลง ท่านจึงได้บรรพชาเป็นสามเณร และไม่ได้ลาสิกขาจนกระทั่งอายุครบบวช เนื่องจากหาจะสึกเมื่อไร ก็มักจะเจ็บป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุอยู่เสมอ ในขณะที่หลวงปู่ยังเป็นสามเณรอยู่นั้น ได้ติดตามพี่ชายไป จ.สุพรรณบุรี และอยู่วัดพระลอยกับหลวงพ่อแต้ม เมื่ออายุครบบวช จึงได้กลับไปอุปสมบท ณ วัดบ้านแก อ.แสวงหา จ.อ่างทอง หลังจากนั้นจึงได้ไปจำพรรษาอยู่ ณ วัดข่อย หรือ วัดข่อยวังปลาในปัจจุบัน
    ที่วัดข่อยนี้เอง หลวงปู่ได้ศึกษาวิทยาการต่างๆ ทั้งทางโลกและทางธรรม กับหลวงพ่อเข็ม ท่านได้ศึกษาอยู่จนได้เป็น พระปลัดกอง มีหน้าที่อบรมสั่งสอนพระเณรที่วัด ซึ่งท่านเป็นพระที่มีวินัยเข้มงวดกวดขันมาก หลังจากนั้นจึงได้ลาสิกขาบทกลับมาใช้ชีวิตฆราวาส
    ลาสิกขา
    ในช่วงชีวิตฆราวาส หลวงปู่ได้มีครอบครัวเฉกเช่นคนทั่วไป แต่เมื่อภรรยาของท่านออกลูกสาวคนแรกก็เสียชีวิตลง ท่านจึงได้แต่งงานใหม่อีกครั้ง โดยมีบุตร-ธิดาที่เกิดจากภรรยาคนที่สองอีก ๓ คน ท่านใช้ชีวิตอยู่ที่ จ.อ่างทองระยะหนึ่ง จึงย้ายมาอยู่ที่ จ.พิจิตร ซึ่งที่นี่เอง ภรรยาคนที่สองของท่านก็ได้เสียชีวิตลงอีก ท่าานจึงเกิดความเบื่อหน่ายทางโลก อีกทั้งบุตรและธิดาท่านโตพอจะช่วยเหลือตนเองได้แล้ว จึงนำไปฝากไว้กับตาและยายเพื่อให้ไปศึกษาต่อในชั้นมัธยม ส่วนท่านจึงได้กลับเข้าอุปสมบทอีกครั้ง
    ชีวิตสมณะ การแสวงหาธรรม และปฏิปทา
    การอุปสมบทครั้งนี้ ท่านได้สละเพศฆราวาสของท่าน ณ วัดเทวประสาท ต.ห้วยเกต อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร ในขณะนั้นท่านมีอายุได้ ๕๕ ปีแล้ว โดยมีท่านพระครูพิบูลย์ศีลสุนทรเป็นพระอุปัชฌาย์ และพระอธิการทองอยู่ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ เมื่อวันที่ ๑๘ กรกฏาคม พ.ศ.๒๔๙๕ โดยได้รับฉายาว่า จันทวังโส เมื่อบวชแล้วท่านได้ศึกษาวิทยาการต่างๆจากหลวงปู่มหาทิม ซึ่งพระอาจารย์มหาทิม เป็นพระผู้มีความรู้ทั้งทางโลกและทางธรรม รวมถึงคาถาอาคมต่างๆ ต่อมาหลวงปู่กองจึงได้ติดตามอาจารย์มหาทิมลงมากรุงเทพ ฯ ด้วย โดยไปจำพรรษาที่วัดพระสิงห์ กรุงเทพฯ จากนั้นท่านจึงได้ไปศึกษาอบรมอยู่กับหลวงพ่อมิ ซึ่งเป็นอาจารย์ของพระอาจารย์มหาทิม (หลวงพ่อมิ เป็นศิษย์ของหลวงปู่คง วัดซำป่างาม จ.ชลบุรี) เมื่ออยู่ได้ระยะหนึ่ง ท่านจึงได้แยกย้ายกับพระอาจารย์มหาทิม เพื่อไปธุดงค์แสวงหาโมกขธรรมตามป่าเขา
    ในการธุดงค์ของหลวงปู่กอง ได้ปลีกวิเวกไปตามป่าเขาลำเนาไพร ตามที่สงบสงัด บางครั้งก็ได้ไปพบกับครูบาอาจารย์และสหายธรรมมากมาย ครั้นเมื่อกลับจากธุดงค์แล้ว ท่านจึงได้ไปจำพรรษาวัดโน้นบ้างวัดนี้บ้าง ตามที่สหายธรรมของท่านได้ชักชวนไป จนกระทั่งในที่สุด หลวงปู่ได้มาจำพรรษาที่วัดสระมณฑลซึ่งเป็นพระอารามเก่าแก่ในสมัยอยุธยา ซึ่งเหลือเพียงโบสถ์และพระพุทธรูปโบราณ วัดมีอาณาเขตเพียงแค่รอบโบสถ์ ล้อมรอบด้วยบ้านเรือนประชาชน
    ในสมัยที่หลวงปู่ออกธุดงค์อยู่นั้น หลวงปู่ได้เดินธุดงค์ไปถึงที่ถ้ำวัวแดง จ.ชัยภูมิ ณ สถานที่นั้นเองที่ท่านได้เจอกับพระอาจารย์อีกองค์หนึ่งของท่าน ที่ท่านให้ความเคารพเทิดทูนมาก นั่นคือ หลวงปู่เทพโลกอุดร ด้วยความเคารพรัก และบูชาในคุณธรรมของท่าน หลวงปู่จึงได้สร้างรูปเหมือนหลวงปู่เทพโลกอุดรขนาดใหญ่ ไว้ให้ศิษยานุศิษย์บูชาไว้ภายในโบสถ์ด้วย
    หลวงปู่กอง ได้จำพรรษาอยู่ที่วัดสระมณฑล จนกระทั่งละสังขาร ในวันที่ ๙ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๔๖ สิริอายุได้ ๑๐๔ ปี ๙ วัน ๕๑ พรรษา ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    ศิษย์สายลป.เทพโลกอุดร
    พระสมเด็จหลวงปู่กองยันต์ตรีนิสิงเห
    ให้บูชา 350 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ
    IMG_20250312_210539.jpg IMG_20250312_210614.jpg
     
  6. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,935
    ค่าพลัง:
    +21,367
    7-สีลวิสุทโธ-jpg.jpg
    หลวงพ่อผิว สีลวิสุทโธ วัดสง่างาม
    ในบรรดาพระสงฆ์เมืองปราจีนบุรีที่เป็นศิษย์สืบทอดพุทธาคมของท่านพระครูปราจีนมุนี หรือหลวงพ่อทอง วัดหลวงปรีชากุล เกจิคณาจารย์เรืองวิทยาคุณในยุคก่อนปีพ.ศ.2460 ซึ่งมีชื่อเสียงและตำแหน่งทางการปกรองคณะสงฆ์มีอยู่ด้วยกัน 3 รูป คือ
    พระครูสิทธิสารคุณ (หลวงพ่อจาด) วัดบางกระเบา เจ้าคณะอำเภอบ้านสร้าง ผู้ให้กำเนิดสำนักเรียนบาลีแห่งแรกของ จ.ปราจีนบุรี และสุดท้ายคือ พระครูสีลวิสุทธาจารย์ (หลวงพ่อผิว สีลวิสุทโธ) วัดสง่างาม เจ้าคณะตำบลบางบริบูรณ์
    ทั้ง 3 ท่านนี้เป็นสุดยอดเกจิดัง-ขลัง-ดี ที่มีวิชาอาคมเป็นเลิศ และเป็นผู้สร้างพระเครื่องที่มากด้วยพุทธคุณไม่แพ้กัน
    หลวงพ่อผิว วัดสง่างาม นับเป็นพระเถระที่สูงด้วยอายุและพรรษากาลถึง 93 ปี 72 พรรษา และเป็นเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังองค์หนึ่งทางภาคตะวันออก มีผู้เคารพนับถือทุกระดับชั้น ทั้งข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนในจังหวัด และในถิ่นที่ห่างไกลออกไป
    ภาพลักษณ์ของท่านคือพระนักพัฒนา ที่เก่งทั้งพัฒนาวัตถุนำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่อาราม และเก่งในการพัฒนาบุคคลจนได้ดีมีชื่อเสียงจำนวนมาก
    ยิ่งในเรื่อง วัตถุมงคลล้วนเป็นที่สนใจของบรรดานักสะสม เพราะท่านสร้างได้ขลังจริง มีประสบการณ์ดีทุกด้าน ทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาด มหาอุด คงกระพันชาตรี ส่วนใหญ่จะเป็นเหรียญซึ่งมีอยู่หลายรุ่นด้วยกัน อาทิ เหรียญรูปไข่รุ่นแรกปี 2502, รุ่น 2 ปี 2512, รุ่น 3 ปี 2515 ที่ระลึกครบ 80 ปี, รุ่น 4 ปี 2517 รูปอาร์ม, รุ่น 5 ปี 2519 รูปหยดน้ำ เป็นต้น นอกนั้นก็มีพระสมเด็จเนื้อว่านรุ่นแรก ปี 2502 หลังปั๊มรูปเหรียญรุ่นแรก, พระสมเด็จ 9 ชั้น, รูปหล่อปั๊มรุ่นแรก ปี 2515, แหนบลงยา, ล็อกเกตภาพสี ฯลฯ
    "วัดสง่างาม" เป็นวัดเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีพ.ศ.2456 ตั้งอยู่เลขที่ 1 บ้าน บางบริบูรณ์ หมู่ 2 ต.บางบริบูรณ์ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ที่ดิน ที่ตั้งวัดมีเนื้อที่ 36 ไร่ 3 งาน 78 ตารางวา มีเจ้าอาวาสเท่าที่ทราบนามคือ หลวงพ่อฮวบ, หลวงพ่อกลีบ, หลวงพ่อเพิ่ม, หลวงพ่อลิ, หลวงพ่อไผ่, หลวงพ่อพู่, หลวงพ่อผิว และพระครูสิริพัฒนโสภณ รูปปัจจุบัน
    "หลวงพ่อผิว" เป็นสมภารรูปที่ 7 ปกครองวัดอยู่ในช่วงปีพ.ศ.2466-2528 ชาติภูมิเป็นชาวบ้านท่างาม อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี เกิดเมื่อปีมะโรง ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 19 พ.ค.2435 เยาว์วัยช่วยพ่อแม่ทำนา อาศัยศึกษาเรียนรู้อยู่กับพระที่วัดเลียบ ซึ่งอยู่ใกล้บ้าน จนอ่านออกเขียนได้ทั้งหนังสือไทยและขอม พออายุ 21 ปีก็เข้าอุปสมบทที่วัดเลียบ เมื่อเดือนมิ.ย.2456 มีพระครูปราจีนมุนี (หลวงพ่อทอง) เจ้าคณะจังหวัดปราจีนบุรี วัดหลวงปรีชากุล เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อหร่ำ วัดเลียบ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายา "สีลวิสุทโธ"
    อยู่จำพรรษาและเล่าเรียนพระธรรมวินัยเป็นเวลา 10 พรรษาจึงย้ายมาอยู่วัดสง่างาม ซึ่งอยู่ห่างออกมาทางทิศตะวันออกของวัดเลียบคนละฝั่งแม่น้ำประมาณ 3 กิโลเมตร โดยได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสตั้งแต่ปีพ.ศ.2466 จนกระทั่งมรณภาพในปีพ.ศ. 2528 รวมระยะเวลา 62 ปี
    หลวงพ่อผิว วัดสง่างาม จ.ปราจีนบุรี ท่านมีตำ แหน่ง-หน้าที่ และสมณศักดิ์ เริ่มจากปี พ.ศ.2466 เป็นพระ กรรมวาจาจารย์ ปีพ.ศ.2475 เป็นเจ้าคณะหมวด (เจ้าคณะตำบล) บางบริบูรณ์ อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี ปีพ.ศ.2482 เป็น พระอุปัชฌาย์ ปีพ.ศ.2493 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระครูสัญญาบัตรชั้นตรี มีราชทินนามว่า "พระครูสีลวิสุทธา จารย์" ปีพ.ศ.2506 เลื่อนเป็น เจ้าคณะตำบลชั้นโท ในนามเดิม ปีพ.ศ.2513 เลื่อนเป็นเทียบผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นเอก
    หลวงพ่อผิว เป็นพระที่ไม่ชอบอยู่นิ่ง ตั้งแต่เริ่มปกครองวัดก็ได้บูรณปฏิสังขรณ์ และพัฒนาสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อพระศาสนาและพุทธศาสนิกชนอย่างไม่หยุดยั้ง โดยเฉพาะด้านการศึกษาท่านได้ก่อตั้งโรงเรียนพระปริยัติธรรมขึ้นเป็นครั้งแรก ของวัด และปรากฏว่าในสมัยนั้นมีพระหลายรูปที่สอบได้นักธรรมตรี โท และเอก ซึ่งลูกศิษย์ของท่านที่เข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ ได้เป็นเปรียญหลายรูป
    สำหรับ ผลงานที่โดดเด่นที่สุดก็คือ โบสถ์หลังปัจจุบันของวัดสง่างาม ซึ่งท่านได้ ใช้ความสามารถก่อสร้างเสร็จในระยะเวลา 5 ปี สิ้นงบประมาณไปเกือบ 2,000,000 บาท
    คุณวิเศษอย่างหนึ่งของหลวงพ่อผิว ที่เล่าขานกันนั่นก็คือ ความเป็นพระผู้มีเมตตาธรรมสูง โดยได้ใช้วิชาความรู้ด้านการแพทย์โบราณช่วยเหลือสงเคราะห์ อนุเคราะห์แก่ผู้เจ็บป่วย เช่น แขนหัก ขาหัก กระดูกหัก จนหายได้อย่างน่าอัศจรรย์ แม้แต่นายแพทย์สมัยใหม่ยังต้องมาให้ท่านช่วยต่อกระดูกก็มี รวมไปถึงสัตว์ต่างๆ อาทิ ช้าง ม้า วัว ควาย ที่ขาหักท่านก็ช่วยรักษามา นับไม่ถ้วน
    นอกจากนี้ ท่านยังเป็นหนึ่งในบรรดาพระเกจิอาจารย์ดังที่มักได้รับอาราธนาไปในพิธีพุทธาภิเษกพระเครื่องหลายต่อหลายรุ่น ซึ่ง ครั้งที่เป็นเกียรติประวัติก็คือ ได้รับฎีกาเข้าไปร่วมพิธีพุทธาภิเษกเหรียญพระแก้วมรกต ภปร.ในพระบรมมหาราชวัง ในงานฉลองวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมื่อปีพ.ศ.2525
    พระเครื่องและวัตถุมงคลที่ท่านสร้างปรากฏความขลังในด้าน พุทธคุณ มีประสบการณ์ดีทั้งด้านเมตตามหานิยม อยู่ยงคงกระพัน แคล้วคลาดปลอดภัย เหรียญบางรุ่นยังพอเช่าหาได้ในราคาไม่แพง แต่ถ้าเป็นเหรียญรุ่นแรก ปีพ.ศ. 2502 เนื้อทองแดง กะไหล่ทอง คงต้องว่ากันที่ "หลักหมื่น"
    บั้นปลาย ชีวิตท่านเริ่มป่วยด้วยโรคเบาหวาน และโรคแทรกอีกหลายโรค โดยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเปาโล กรุงเทพฯ และโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เป็นครั้งคราว จนกระทั่งวาระสุดท้ายท่านได้กลับมามรณภาพ ที่วัดสง่างาม เมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2528 เวลา 08.45 น. สิริอายุ 93 พรรษา 72 และได้รับพระราชทานเพลิงศพเมื่อวันที่ 16 มี.ค. 2529 มีพระปราจีนมุนี เจ้าคณะจังหวัดปราจีนบุรี เป็นประธาน นับว่าเป็นงานที่ยิ่งใหญ่มาก เพราะมีศิษยานุศิษย์และผู้เคารพศรัทธามากัน อย่างมืดฟ้ามัวดิน
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    เหรียญโภคทรัพย์รุ่นนิยมของหลวงพ่อผิวสภาพผ่านการบูชาและเหรียญมหาเศรษฐีหลวงพ่อผิววัดสง่างามคู่กัน๒องค์
    ให้บูชา 400 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ
    IMG_20240202_171950.jpg IMG_20240202_172016.jpg img_20240201_220833-jpg.jpg img_20240201_220908-jpg.jpg
     
  7. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,935
    ค่าพลัง:
    +21,367
    ท้าวสหัมปติพรหม สถิตอยู่บนพรหมโลกชั้นที่ 16 อกนิฏฐ สุทธาวาสภูมิ สำเร็จจตุตถฌานชั้นสูงสุด เป็นผู้ส่งเสด็จพระพุทธองค์ครั้งเสด็จขึ้นไปเทศนาโปรดพุทธมารดา เป็นผู้ถวายอัฐบริขาร เป็นผู้ทูลอาราธนาพระพุทธองค์ให้แสดงพระสัทธรรมเทศนาโปรดเวไนยสัตว์ และเป็นผู้พยากรณ์พุทธกัลป์
    ตำนานเล่าว่า ครั้งหนึ่งเมื่อพระพุทธองค์ตรัสรู้เป็นองค์พระสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว จะไม่แสดงพระสัทธรรมเทศนาที่ได้บรรลุโปรด ทรงเห็นว่าเป็นธรรมที่มีความละเอียด จะมีใครรู้เรื่องสักกี่คน
    ท้าวสหัมปติพรหม ทราบความและกล่าวคำปริวิตกว่า "โอ้หนอ โลกจะฉิบหายแหลกลาญลงเสียแล้วหนอ" เสียงดังทั่วหมื่นโลกธาตุ จึงเสด็จลงมาพร้อมด้วยเทพบริษัท ทรงกราบทูลอาราธนาองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้แสดงพระสัทธรรมเทศนา ในคำอาราธนาธรรมตอนหนึ่งว่า
    "พรหมา จะ โลกาธิปะตี สะหัมปะติ กัตอัญชะลี อันธิวะรัง อะยาจะถะ สันธีธะ สัตตาปปะระชักขะชาติกา เทเสตุธัมมัง อะนุกัมปิมังปะชัง"
    "ท้าวสหัมปติพรหมผู้เป็นอธิบดีของโลก กราบทูลวิงวอนสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ประเสริฐกว่าสัตว์ทั้งหลายที่มี ธุลี คือ กิเลสในดวงตาเบาบางยังมีอยู่ในโลกนี้ ขอพระองค์ทรงแสดงธรรมอนุเคราะห์หมู่สัตว์นี้เถิด"
    ครั้นท้าวสหัมปติพรหม เมื่อทราบว่าพระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมโปรดมนุษย์โลกทั้งหลายก็อัญชลีแล้วกระทำ ประทักษิณ อันตรธานหายไปจากสถานที่นั้น กลับสู่พรหมวิมานในพรหมโลก
    จากตำนานความเชื่อดังกล่าว พระครูสังฆรักษ์ประสิทธิ์ สิทธิโก เจ้าอาวาสวัดเพลง (โบสถ์สีชมพู) ต.ไทรม้า อ.เมือง จ.นนทบุรี ได้จัดสร้างวัตถุมงคล ท้าวสหัมปติพรหม รุ่นฉลองตราตั้ง เพื่อให้กับญาติโยมที่มาร่วมแสดงมุทิตาสักการะ ให้เป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ
    วัตถุมงคลนี้เป็นเนื้อผงที่ได้นำมวลสารสิ่งมงคล 108 ชนิด รวมกับดินจาก 4 สถานจากประเทศอินเดีย และไม้มงคลหายาก 9 อย่าง วัตถุมงคลมีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยม ด้านหน้าเป็นรูปท้าวสหัมปติพรหม ท่านั่งอยู่บนฐาน 3 ชั้น องค์เป็นรูปนูน มีอักขระทั้ง 4 มุม ด้านล่างใต้ฐานเขียนคำว่า "ท้าวสะหัมปะติมหาเทพ"
    ด้านหลังเป็นยันต์ ครอบจักรวาลรอบทั้ง 4 มุม เป็นยันต์แบบนูน ฝั่งพระธาตุเข้าไปในเนื้อมวลสาร ด้านล่างยันต์เขียนคำว่า "วัดเพลงโบสถ์สีชมพู นนทบุรี"
    เมื่อสร้างเสร็จแล้ว พระอาจารย์ประสิทธิ์ได้นำวัตถุมงคลทั้งหมด มานั่งปรกอธิษฐานจิตในโบสถ์สีชมพู 1 ไตรมาส
    ด้วย มวลสารและการประกอบพิธีพุทธาภิเษก-เทวาภิเษกอันยิ่งใหญ่ ถูกต้องตามแบบแผนโบราณ ทำให้วัตถุมงคลท้าวสหัมปติพรหม กลายเป็นที่ต้องการของสาธุชนหรือนักสะสมนิยมพระเครื่องวัตถุมงคล ที่มีความประสงค์ต้องการเก็บไว้ในครอบครองเป็นอย่างยิ่ง
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    ให้บูชา 150 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ
    IMG_20250313_163312.jpg IMG_20250313_163337.jpg IMG_20250313_163525.jpg
     
  8. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,935
    ค่าพลัง:
    +21,367
    m1.jpg

    เขาหากันให้ควัก
    หลวงพ่อมี มีคุณสมบัติพิเศษที่ผิดแปลกไปจากเด็กชาวบ้านธรรมดา ๆ ตรงที่ท่านเป็นเด็กที่มีใจบุญสุนทาน ชอบติดตามบิดามารดาเข้าวัด ถ้าถูกห้ามปรามไม่ให้ตามไปด้วยจะต้องร้องไห้คร่ำครวญจนถึงกับชักตาตั้ง ซึ่งก็เป็นเรื่องอัศจรรย์อยู่ไม่น้อยที่เด็กเซื่องซึมคล้ายปัญญาอ่อนจะมีความกระตือรือร้นในการไปวัด อันเป็นการส่อแววการเป็นเกจิอาจารย์ของหลวงพ่อมีมาแล้วตั้งแต่ยังเล็ก ๆ
    ดังนั้น เมื่อพี่ชายคนโต คือ หมอแบนมาอุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดมารวิชัย หลวงพ่อมี ขณะนั้นมีอายุเพียง 12 ปี จึงขอบิดามารดาติดตามพระพี่ชายมาอยู่ด้วยทันที (ภายหลัง พระพี่ชายลาสิกขาแล้ว ได้เป็นแพทย์ประจำตำบล ชาวบ้านเรียกท่านว่า “หมอแบน”) ในตอนแรกบรรดาญาติผู้ใหญ่ไม่มีผู้ใดยอมให้หลวงพ่อมีที่มีลักษณะปัญญาอ่อนไปอยู่ด้วย เพราะเกรงจะเป็นภาระให้กับพระพี่ชายที่เพิ่งอุปสมบทใหม่ ๆ
    หลวงพ่อมีจึงร้องไห้และเกิดชักขึ้น จนทุกคนต้องตามใจให้ไปอยู่กับพระแบนที่วัดมารวิชัย ตั้งแต่อายุเพียง 12 ปี บัดนั้นเป็นต้นมา
    สติปัญญากลับปราดเปรื่อง
    เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์มากจริง ๆ ตั้งแต่หลวงพ่อมีมาอยู่วัดมารวิชัยแล้ว ลักษณะอาการที่โง่งมประดุจเด็กปัญญาอ่อนและขี้โรค กลับกลายเป็นตรงกันข้าม อาการขี้โรคต่าง ๆ หายดังปลิดทิ้งไม่เคยมีอาการชักอีกเลย สติปัญญาที่ใคร ๆ มองกันว่าทึบ ก็กลับปราดเปรื่องสามารถศึกษาอักขระสมัย ทั้งภาษาไทยและภาษาขอมกับหลวงพี่แบนและได้รับการแนะนำสั่งสอนจากครูเยื้อน ซึ่งเป็นบุตรของอา จึงมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน จนหลวงพ่อมีสามารถอ่านออกเขียนได้อย่างรวดเร็ว นั่นเป็นที่แปลกใจของญาติสนิททั้งปวง และเริ่มมองเห็นแววแห่งอัจฉริยะฉายขึ้นในตัวเด็กชายบุญมีคนนี้
    หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย ท่านได้ศึกษาวิชามาจากหลวงพ่อเขียน วัดบ้านพร้าวนอกเป็นรูปแรก จากนั้นท่านได้ไปศึกษาวิชากับหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค แต่หลังจากหลวงพ่อปาน มรณะภาพไปแล้วท่านก็ได้ไปศึกษากับหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก ตามคำแนะนำของหลวงพ่อปาน จนกระทั่งหลวงพ่อจงมรณะภาพ หลวงพ่อมีท่านก็ได้ธุดงค์ออกไปแสวงหาธรรมมะจวบจนได้ไปพบและศึกษาธรรมะกับ หลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกาอยู่ระยะหนึี่ง จึงได้ลากลับ แต่หลังจากนั้นก็ได้มีเหตุให้ธุดงค์จนมาพบหลวงพ่อแช่มวัดตาก้อง ก็ได้ศึกษาวิชากับหลวงพ่อแช่มเช่นกัน
    วัตถุมงคลของหลวงพ่อมีนั้นมี ประสบการณ์มากมายเช่น ประสบการณ์ด้านอยู่ยงคงกระพันชาตรีของเหรียญรุ่นแรก เคยมีผู้ถูกฟันด้วย มีดพร้า คือมีดขอขนาดใหญ่ ด้ามยาวมีปลายเป็นขอคมมาก ใช้สำหรับเกี่ยวตัดต้นอ้อยฉับเดียวขาดครั้งละหลาย ๆ ลำ แต่มีดพร้าที่ว่าคมแสนคมยังฟันคอ ผู้ที่มีเหรียญรุ่นแรกของหลวงพ่อมีไม่เข้ามาแล้วหลายราย ! ที่เคยถูกแทงด้วย มีดปลายแหลม จนเสื้อทะลุแต่ไม่เข้าก็มีหลายราย ประสบการณ์จากการถูกยิงด้วยปืน ชนิดที่ห้อยเหรียญเดี่ยว ๆ อยู่บนคอ ไม่เคยเข้าเลยสักรายเดียว เรียกว่ามีผู้เคยถูกยิงด้วยปืนไม่เข้ามาแล้วหลายชนิดด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นปืนลูกโดด ปืนลูกซองแผด ปืนจุด 38 และปืนคอลท์ตราควายไทยประดิษฐ์ ที่ผ่านการปลุกเสกประจุอาคมซึ่งนักแสดงลูกทุ่งชอบใช้ยิงคัดทำลายอาคมต่าง ๆ ก็ยังไม่สามารถทำอะไรได้ สำหรับปืนเอ็ม 16 อาวุธสงครามร้ายแรงยังไม่เคยมีประสบการณ์ แต่ใคร ๆ ก็เชื่อว่า “กันได้แน่” ! เพราะเคยมีผู้ใช้ติดตัว เหยียบกับระเบิดไม่เป็นอะไรมาแล้ว อาวุธอย่างอื่นเห็นทีไม่ต้องพูดถึง และประสบการณ์สด ๆ ร้อน ๆ เมื่อปีที่แล้ว ลูกเขยลุงสำแล ธนสนธิ์ ถูกลอบยิงด้วย ปืนเอ็ม 16 เสียชีวิต ส่วนลูกสาวถูกยิงทะลุฝ่ามือ ที่ยกขึ้นป้องหน้าอก แต่ลูกกระสุนสงครามที่ยิงทะลุฝ่ามือ 2 นัด นัดหนึ่งยิงถูกสร้อยคอขาด ไม่ระคายผิว ! อีกนัดหนึ่งยิงถูกพระของหลวงพ่อมีเลี่ยมพลาสติกแตกละเอียด แต่ก็ไม่ระคายผิวเช่นกัน ! ลูกสาวลุงสำแล
    ซึ่งเป็นน้องของหลวงพ่อมี ไม่ได้ห้อยเหรียญรุ่นแรกของหลวงพ่อมี เพียงแต่ห้อยภาพถ่ายเล็ก ๆ เป็นกระดาษขาว-ดำ เลี่ยมพลาสติกอยู่บนคอภาพเดียวเท่านั้น... เป็นภาพถ่ายรุ่น 2 หลวงพ่อมีสร้างและปลุกเสก เมื่อปี พ.ศ. 2522 นี่เอง ! ภาพถ่ายรุ่นนี้จึงได้รับการขนานนามว่า “รุ่นเอ็มสิบหก” ขนาดภาพถ่ายเล็ก ๆ ของหลวงพ่อมียังมีพุทธานุภาพมหาศาล สามารถป้องกันปืนเอ็ม 16 ได้ อิทธิมงคลทุกชนิดของหลวงพ่อมีจึงถูกผู้รู้เสาะหากันอย่างเกรียวกราว
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    เหรียญท้าวมหาพรหมเอราวัณหลังหลวงพ่อมีวัดมารวิชัยรุ่นดวงเศรษฐี
    ให้บูชา 250 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20250313_163150.jpg IMG_20250313_163226.jpg
     
  9. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,935
    ค่าพลัง:
    +21,367
    1741919245953.jpg

    ประวัติ หลวงปู่ม่วง นาคเสโน วัดยางงาม
    "พระครูสุนทรจริยาวัตร" พระเกจิอาจารย์เรื่องวิทยาคมชื่อดังแห่งลุ่มน้ำแม่กลอง หรือที่รู้จักกันดีในนาม หลวงปู่ม่วง นาคเสโน แห่งวัดยางงาม อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี กล่าวได้ว่าหลวงปู่ม่วง เป็นพระเกจิอาจารย์แห่งลุ่มน้ำแม่กลองรูปสุดท้ายแล้ว ท่านมีอาวุโสพรรษาในการประพฤติปฏิบัติธรรมมาก เป็นที่เลื่อมใสของชาวบ้าน
    หลวงปู่ม่วง นาคเสโน วัดยางงามหลวงปู่ม่วง ดำรงตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอปากท่อ จ.ราชบุรี และเจ้าอาวาสวัดยางงาม
    อัตโนประวัติ มีนามเดิมว่า ม่วง พุ่มโรจน์ เกิดเมื่อวันพุธที่ 21 สิงหาคม 2455 ตรงกับวันขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 ปีชวด ณ บ้านหมู่ที่ 5 ต.ปากท่อ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี
    อายุ 20 ปี ตัดสินใจเข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 8 มิถุนายน 2474 ณ พัทธสีมาวัดปากท่อ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี โดยมีพระครูอินทเขมาจารย์ (ต่อมาได้เลื่อนสมณศักดิ์ที่พระราชเขมาจารย์) วัดช่องลม อ.เมือง จ.ราชบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์
    หลังครองผ้ากาสาวพัสตร์ มุ่งมั่นศึกษาหาความรู้ทางด้านพระธรรมวินัย พ.ศ.2476 สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี สำนักเรียนวัดปากท่อ พ.ศ.2478 สอบได้นักธรรมชั้นโท
    แม้ในชั้นแรก ตั้งใจบวชเรียนเพียง 2-3 พรรษา แต่เมื่อได้ศึกษาร่ำเรียนพระปริยัติธรรม เกิดความซาบซึ้งในรสพระธรรมจนไม่คิดลาสิกขา ท่านตัดสินใจเดินทางมาอยู่ที่วัดยางงาม ร่วมกับพระลูกวัดและชาวบ้าน พัฒนาวัดอย่างต่อเนื่อง จัดสอนธรรมมะ เปิดโรงเรียนสอนพระอภิธรรม มีชาวบ้านมาเรียนมากมาย
    ต่อมาได้จัดให้มีการบวชชีพราหมณ์ ในแต่ละปีจะมีผู้เข้าร่วมกันอย่างมากและยังมีบวชสามเณรภาคฤดูร้อน
    ผลงานด้านการศึกษา พ.ศ.2480 เป็นครูสอนนักธรรม พ.ศ.2501 เป็นเจ้าสำนักเรียนพระปริยัติธรรมวัดยางงามและเป็นผู้อุปการะโรงเรียนประชาบาลวัดยางงาม ในการส่งเสริมการศึกษาหรือการเผยแผ่พระพุทธศาสนา
    หลวงปู่ม่วง ยังเดินหน้าจัดอบรมศีลธรรม จริยธรรมแก่ประชาชนทั่วไป จัดให้มีการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน อบรมวิปัสสนากัมมัฏฐานทุกปี จัดสวนพระปาฏิโมกข์และฟังอ่านพระปาฏิโมกข์แปลทุกวันพระ 14-15 ค่ำ กลางเดือนและสิ้นเดือน จัดให้มีการพิมพ์หนังสือ บทความธรรมะ แจกจ่ายแก่พระภิกษุสามเณรและบุคทั่วไป รวมจัดตั้งกองทุนเพื่อการศึกษาในเขตโรงเรียนประถมศึกษาต่างๆ และการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์
    งานสาธารณูปการ จัดการบูรณะและพัฒนากุฏิสงฆ์ทรงไทยเรือนไม้ ศาลาหอฉัน สร้างสะพานข้ามคลอง เพื่อประโยชน์ส่วนรวม จัดสร้างถาวรวัตถุอีกมากมายให้วัดและประชาชน
    ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2480 เป็นครูสอนนักธรรม ณ สำนักเรียนวัดยางงาม พ.ศ.2488 เป็นเจ้าคณะตำบลจอมประทัด พ.ศ.2501 เป็นเจ้าอาวาสวัดยางงามและเจ้าคณะตำบลปากท่อ
    พ.ศ.2508 เป็นอุปัชฌาย์ พ.ศ.2540 เป็นรองเจ้าคณะอำเภอปากท่อ
    ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2501 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรีที่ พระครูสุนทรจริยาวัตร
    พ.ศ.2521 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท ในราชทินนามเดิม
    หลวงปู่ม่วง เป็นพระที่มีความเมตตา ไม่เคยดุด่าว่าใคร ทำให้ชาวบ้านต่างเลื่อมใสศรัทธาเป็นอย่างยิ่ง ท่านเคยปรารภว่า "อยากให้ทุกคนมีความเมตตา ด้วยมีเมตตาแล้ว สิ่งดีจะบังเกิดผลตามมา"
    หลวงปู่ม่วง มรณภาพลงด้วยโรคมะเร็งในต่อมน้ำเหลืองในช่องท้อง ด้วยอาการสงบ เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 22 สิงหาคม 2552 สิริอายุ 98 ปี พรรษา 78 เป็นที่เศร้าสลดแก่บรรดาสานุศิษย์และญาติโยมชาวเมืองราชบุรี
    ทั้งนี้ คณะกรรมการวัดยางงาม ได้ตกลงว่าจะนำสังขารหลวงปู่ม่วงตั้งบำเพ็ญกุศล ณ วัดยางงาม อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี และจัดพิธีสวดพระอภิธรรม ไปจนครบ 100 วัน ก่อนดำเนินการขอรับพระราชทานเพลิงศพต่อไป
    โดยทุกวัน จะมีผู้มาร่วมไว้อาลัยระลึกคุณความดีของหลวงปู่ม่วงกันอย่างล้นหลาม
    แม้สังขารสูญสลาย แต่คุณงามความดีมิมีวันเสื่อม

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    ให้บูชา 150 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาท
    ครับ
    IMG_20250313_163854.jpg IMG_20250313_163936.jpg
     
  10. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,935
    ค่าพลัง:
    +21,367
    1741921283761.jpg
    2015-04-04_122831.jpg

    เหรียญหลวงปู่จันทร์ เขมิโยเถระ รุ่นส้รางเจดีย์บรรจุอัฐิ ปี 2537 (พระเทพสิทธาจารย์)
    - หลวงปู่จันทร์ เขมิโย' หรือ พระเทพสิทธาจารย์ อดีตรองเจ้าคณะภาค 8-11 และที่ปรึกษาภาค 8-11 อดีตเจ้าอาวาสวัดศรีเทพ ประดิษฐาราม (ธ) อ.เมือง จ.นครพนม พระเถระร่วมสมัย 5 แผ่นดิน
    ศิษย์สืบสายธรรมหลวงปู่เสาร์ กันตสีโล บูรพาจารย์แห่งพระป่า และหลวงปู่สีทัตถ์ ญาณสัมปันโน พระผู้สร้างพระธาตุท่าอุเทนและพระพุทธบาทบัวบก
    มีนามเดิมว่า จันทร์ สุวรรณมาโจ ในวัยเยาว์ เริ่มอ่านอักษรสมัยเบื้องต้นคือ หนังสือไทยน้อย ขอม ไทยใหญ่ ก่อนเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ บรรพชาตั้งแต่วัย 10 ขวบ หลวงปู่จันทร์ ท่านเป็นปฐมกำเนิดวงศ์ธรรมยุตใน จ.นครพนม ญัตติเป็นครั้งแรกที่วัดแห่งนี้ และแผ่ขยายออกไปในพื้นที่ 71 วัด ทั้งจัดการศึกษาแผนใหม่ การศึกษานักธรรม-บาลี
    ระหว่างรับภาระปกครองคณะสงฆ์ 2 นิกาย ท่านได้ทำนุบำรุงบูรณปฏิสังขรณ์วัด ทั้งคณะสงฆ์ฝ่ายธรรมยุตและคณะสงฆ์อื่นๆ ให้เสมอภาคกัน ดำรงอยู่คู่บวรพระพุทธศาสนา
    บั้นปลายชีวิต ท่านได้ละสังขารอย่างสงบด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2516 เวลา 08.00 น.สิริอายุ 92 พรรษา 72 ในปี พ.ศ.2537 พระราชสุทธาจารย์ อดีตเจ้าอาวาสวัดศรีเทพฯ ได้จัดสร้างวัตถุมงคล เป็นเหรียญหลวงปู่จันทร์ มีวัตถุประสงค์เพื่อแจกญาติโยมที่มาทำบุญในวัด เนื่องในโอกาสฉลองเจดีย์บรรจุอัฐิ ในวันที่ 2 ก.พ. ของปีที่จัดสร้างดังกล่าว
    จัดสร้างชนิดเดียว เป็นเหรียญเนื้อทองแดง 50,000 เหรียญ ลักษณะเป็นเหรียญรูปไข่ มีหูห่วง
    ด้านหน้าเหรียญ มีเส้นสันนูนล้อมรอบ มีจุดไข่ปลาล้อมตามขอบรอบเส้นวงรี และมีเส้นสันขนาบรอบวงรีด้านในอีกชั้น ตรงกลางเหรียญมีรูปเหมือนหลวงปู่หน้าตรงครึ่งองค์ จากรอบใบหูซ้ายวนไปถึงใบหูด้านขวา สลักตัวหนังสือนูนคำว่า 'หลวงปู่พระเทพสิทธาจารย์ (จันทร์ เขมิโยเถระ)'
    ด้านหลังเหรียญ มีเส้นสันขอบหนารอบขอบเหรียญ ใต้หูห่วงสลักตัวหนังสือนูนคำว่า 'รุ่นสร้างเจดีย์บรรจุอัฐิ' กึ่งกลางเหรียญมีภาพเหมือนคล้ายเจดีย์ทรงระฆังคว่ำ ซึ่งเป็นเจดีย์บรรจุอัฐิของหลวงปู่ประดิษฐานอยู่ด้านหลังอุโบสถของวัด ใต้ฐานเจดีย์สลักตัวเลขไทย '๙๒' หมายถึงอายุของท่าน ถัดลงมาสลัก '๒๕๓๗' คือปี พ.ศ.ที่จัดสร้าง
    เหรียญรุ่นนี้ หลวงปู่คำพันธ์ โฆษปัญโญ อดีตพระเกจิชื่อดังภาคอีสาน วัดพระธาตุมหาชัย อ.ปลาปาก จ.นครพนม นั่งอธิษฐานจิตพุทธาภิเษกในอุโบสถวัดศรีเทพฯ
    เหรียญดังกล่าว เซียนพระเรียกขานติดปากว่า 'รุ่นหลังเจดีย์' มีพุทธคุณโดดเด่นด้านแคล้วคลาดปกป้องคุ้มภัย เมตตามหานิยม ทำมาค้าขายคล่อง ฯลฯ
    แม้ในยุคนั้นจะสร้างแจก แต่ปัจจุบันถูกเก็บและขาดหายในตลาดพระเครื่องช่วงระยะหนึ่ง
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    ๒ เหรียญคู่ ให้บูชา 350 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20250313_163606.jpg IMG_20250313_163623.jpg IMG_20250313_163650.jpg IMG_20250313_163711.jpg IMG_20250313_163737.jpg IMG_20250313_163818.jpg
     
  11. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,935
    ค่าพลัง:
    +21,367
    1741933151565.jpg

    1741933441983.jpg

    สิ้นเกจิดังเจ้าแห่งตะกรุดปิดตำนานภาพพระอุ้มโยมแม่
    22 ตุลาคม 2562
    นครพนม-พระอาจารย์บุญอุ้ม อาภัสสโร เกจิสายป่ามรณภาพ สิริอายุ 65 ปี 36พรรษา เปิดประวัติเจ้าแห่งตะกรุดแคล้วคลาดปลอดภัยเมตตามหานิยมเคยบอกจะละสังขารไว้แล้วล่วงหน้า
    นครพนม-พระอาจารย์บุญอุ้ม อาภัสสโร เกจิสายป่ามรณภาพ สิริอายุ 65 ปี 36พรรษา เปิดประวัติเจ้าแห่งตะกรุดแคล้วคลาดปลอดภัยเมตตามหานิยมเคยบอกจะละสังขารไว้แล้วล่วงหน้า
    เมื่อวันที่ 22ต.ค.62 ที่ จ.นครพนม พระอาจารย์บุญอุ้ม อาภัสสโร หรือ พระครูไพศาลธรรมมงคล พระเกจิชื่อดัง อดีตเจ้าคณะอำเภอบ้านแพง-นาทม อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าโนนแพง หมู่ 5 ต.บ้านแพง อ.บ้านแพง จ.นครพนม ได้มรณภาพอย่างสงบที่กุฏิในวัดเมื่อเวลา 05.09 น.ศิริอายุ 65 ปี 36 พรรษา หลังเข้ารับการรักษาอาการอาพาธโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวมานานหลายปี
    เมื่อเวลา 16.00น.นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.นครพนม เป็นประธานฝ่ายฆราวาส นำศิษยานุศิษย์ ตลอดจนผู้ที่เคารพศรัทธา ประกอบพิธีสรงน้ำศพ
    นายมหานิยม พิณราชลูกศิษย์ใกล้ชิด กล่าวว่า ก่อนนี้ พระอาจารย์บุญอุ้มเคยบอกว่าจะละสังขาร ตามกาลเวลา สัจธรรมของชีวิต ช่วงอายุ 65 ปีแต่ลูกศิษย์ยังไม่ปักใจเชื่อคิดว่าคงพูดเปรียบเปรยและให้เข้าใจถึงสัจธรรมชีวิตไม่คิดว่าจะมาละสังขารลงอย่างสงบถือเป็นเรื่องเศร้าสำหรับศิษยานุศิษย์เป็นอย่างมากเพราะหลวงพ่อเป็นที่พึ่งทางใจเป็นที่เคารพศรัทธาของบรรดาลูกศิษย์และประชาชนทั่วประเทศ ในสายความเชื่อ เกี่ยวกับเมตตามหานิยม
    สิ้นเกจิดังเจ้าแห่งตะกรุดปิดตำนานภาพพระอุ้มโยมแม่
    สำหรับพระอาจารย์บุญอุ้ม อาภัสสโร มีนามเดิมว่า บุญอุ้ม อภัยโส เกิดเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2498 เป็นชาว ต.บ้านแพง อ.บ้านแพง บิดามารดาชื่อพระอ่อนสี และแม่ชีทิพย์ อภัยโส เป็นบุตรคนที่ 3 ในจำนวนพี่น้อง 6 คน อดีตท่านเคยเป็นศิษย์สืบสายธรรมหลวงปู่มหาเหรียญ ปภาคโร วัดหันห้วยทราย อ.ประทาย จ.นครราชสีมา ขณะอายุ 13 ปี บวชเณรที่วัดชัยมงคล ติดตามหลวงปู่มหาเหรียญ บำเพ็ญเพียร ปักกรดตามป่าช้าหลายจังหวัดภาคอีสานภาคกลางและภาคเหนือนาน 5 ปีก่อนลาสิกขาบทมาช่วยครอบครัว เพราะสงสารแม่กระทั่ง อายุ 29 ปี ได้อุปสมบท อีกครั้ง ณ วัดศรีวิชัย ต.สามผง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม มีหลวงปู่คำพันธ์ จันทูปโม เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์แดง ฐิตวิรโย เป็นพระอนุสาววานาจารย์ หลังอุปสมบท จำพรรษาในถ้ำมืดถ้ำโขง เทือกเขาภูลังกา อ.บ้านแพง กับลวงปู่อ่อนสี ขันติโก อายุ 70 ปี ผู้เป็นบิดาที่เป็นพระป่าสายบำเพ็ญภาวนาเช่นกันตลอดการอุปสมบทได้เดินทางสายวิปัสสนาภาวนานั่งสมาธิกัมมัฏฐานฝึกจิตนาน 18 ปี
    ต่อมา หลวงปู่อ่อนสี บุพการี ละสังขาร ได้ยกที่ดินหัวนา 20 ไร่ ตั้งวัดให้เป็นที่พักสงฆ์ ก่อนขออนุญาตตั้งวัดชื่อว่า วัดป่าโนนแพงตั้งแต่พ.ศ.2543ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลบ้านแพง-นาทม นาน 2-3 ปีและลาออกต้องมาดูแลมารดาที่บวชเป็นแม่ชีที่วัดจนวาระสุดท้าย
    พระอาจารย์บุญอุ้ม ได้ศึกษาตำราหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท เป็นภาษาขอม มี 4 หมวดแต่ท่านเลือกหมวดวิทยาคม ศึกษานาน 1 ปีจนช่ำชอง เป็นที่มาของ การปลุกเสกสร้างวัตถุมงคลตะกรุดแผ่นทองครั้งแรกในปี 2545 รวมถึงเครื่องรางของขลังที่มีชื่อเสียงคือตะกรุดหนังเสือ ตะกรุดลูกปืน เพื่อนำไปมอบให้ เป็นที่คุ้มครอง ยึดเหนี่ยวจิตใจของ ตำรวจทหาร ชายแดน ใต้ ไปจนถึงเป็นเจ้าแห่งเครื่องราง เมตตามหานิยม ค้าขาย ร่ำรวย จนมีบรรดาศิษยานุศิษย์ เคารพศรัทธา ทั่วประเทศ และต่างแสวงหา เครื่องราง หลวงพ่ออุ้ม ไว้ไปบูชา เป็นสิริมงคล ตามความเชื่อ ความศรัทธา เชื่อกันว่า ใครมีไว้ครอบครอง จะได้รับความเมตตา มหานิยม แคล้วคลาด ปลอดภัย ค้าขายร่ำรวย ซึ่งลูกศิษย์ใกล้ชิดเคยระบุว่า พระอาจารย์บุญอุ้มได้เคยปรารภกลับลูกศิษย์ว่า ตะกรุด 1 ดอก เท่ากับ 1 ชีวิต อาตมาได้ถ่ายทอดพลังชีวิตลงไปหยุดไม่ได้ตราบใดที่ทหารตำรวจพ่อค้าแม่ขายังรอความช่วยเหลือ
    ที่สำคัญพระอาจารย์บุญอุ้ม เป็นพระป่าสายที่มีความเมตตา ต่อลูกศิษย์ และประชาชน ทุกคนที่เคารพศรัทธามากราบไหว้ เป็นพระสายป่า ที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบมีความกตัญญูกตเวทิตาซึ่งพระอาจารย์บุญอุ้มได้แสดงออกถึงความรักต่อแม่ขณะอุปสมบทอยู่ในสมณศักดิ์ แต่ได้ไปกอดอุ้มดูแลแม่ที่เป็นเพศหญิงที่ป่วยเดินไม่ได้มีการเผยแพร่ภาพออกไปสื่อให้ความสำคัญของบุพการีกลายเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาเป็นที่มาของภาพ"พระสงฆ์อุ้มโยมแม่"
    ขอขอบคุณข้อมูลจาก
    Post today
    ขอเผยแผ่ ประวัติและคุณงามความดี บารมีของหลวงพ่อบุญอุ้ม อาภัสสโร
    ท่านพระอาจารย์บุญอุ้ม อาภัสสโร เป็นพระป่าที่สืบสายธรรมจากหลวงปู่พระมหาเหรียญ ปภากโร แห่งวัดบ้านหันห้วยทราย อ.ประทาย จ.นครราชสีมา
    พระอาจารย์บุญอุ้ม อาภัสสโร หรือ พระครูไพศาลธรรมมงคล เจ้าอาวาสวัดป่าโนนแพง ต.บ้านแพง อ.บ้านแพง จ.นครพนม เป็นครูบาอาจารย์ที่ชาวบ้านแพง และประชาชนทั่วประเทศให้ความเลื่อมใสศัทธา
    ปัจจุบันพระอาจารย์บุญอุ้ม อาภัสสโร สิริอายุ ๖๓ปี พรรษา๓๔
    อัตโนประวัติ มีนามเดิมว่า บุญอุ้ม อภัยโส เกิดเมื่อวันที่ ๒๓ ตุลาคม ๒๔๙๘ ที่ต.บ้านแพง อ.บ้านแพง จ.นครพนม
    โยมบิดาชื่อนายอ่อนศรี อภัยโส(หลวงปู่อ่อนศรี ขันติโก)-โยมมารดานางทิพย์ อภัยโส(คุณแม่ชีทิพย์ อภัยโส
    เป็นบุตรคนที่๓ ในจำนวนพี่น้องทั้งหมด ๖ คน
    ในช่วงวัยเยาว์ จบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่๔ ครั้นเมื่ออายุได้๑๓ ปี ได้เข้าบรรพชาเป็นสามเณร อยู่ที่วัดชัยมงคล ก่อนจะติดตามหลวงปู่พระมหาเหรียญ ธุดงค์ไปปักกลดตามป่าช้าใน จ.นครพนม ร้อยเอ็ด มหาสารคาม กาฬสินธุ์ อุบลราชธานี สระบุรี และทางภาคเหนือ เป็นเวลานานถึง ๕ ปี ก่อนจะลาสิกขาออกมาช่วยครอบครัวหาเลี้ยงชีพ
    เมื่ออายุได้ ๒๙ ปี ท่านได้เข้าพิธีอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดศรีวิชัย ต.สามผง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม โดยมีพระครูอดุลธรรมภาณ ชึ่งต่อมาได้รับเลื่อนสมณศักดิ์ที่พระจันโทปมาจารย์(หลวงปู่คำพันธุ์ จันทูปโม) เป็นพระอุปัชฌาย์ และพระอาจารย์แดง ฐิตวิริโย เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า อาภสฺสโร
    เมื่อวันที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๗
    ภายหลังจากการอุปสมบทแล้วพระอาจารย์บุญอุ้ม ท่านได้ไปจำพรรษาที่บนเทือกเขาภูลังกา ภายในถ้ำมืดถ้ำโขง กับหลวงปู่อ่อนศรี ขันติโก บิดาของพระอาจารย์บุญอุ้ม ในวัย ๗๐ ปี เพื่อปฎิบัติภาวนานั่งสมาธิฝึกพระกรรมฐานฝึกจิตอยู่นานถึง ๑๘ ปี ก่อนจะออกธุดงค์ไปกับสามเณร ๒ รูป ไปทางภาคเหนือและกลับมาปฎิบัติดูแลหลวงปู่อ่อนศรี บิดาของท่าน ที่ภายในถ้ำมืดถ้ำโขง อยู่เป็นระยะเวลา๒-๓ปี
    ก่อนที่หลวงปู่อ่อนศรี ขันติโก จะมรณภาพละสังขาร ท่านได้ยกที่ดินจำนวน ๒๐ ไร่ (ปัจจุบันคือที่ตั้งวัดป่าโนนแพง) ให้เป็นที่พักสงฆ์หลายปี ก่อนจะขออนุญาตตั้งวัด ชื่อว่าวัดป่าโนนแพง
    ในปี พ.ศ.๒๕๔๓ พระอาจารย์บุญอุ้ม อาภัสสโร ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดป่าโนนแพง และดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าคณะตำบลบ้านแพง-นาทม ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะตำบลอยู่๒-๓ ปี พระอาจารย์บุญอุ้ม อาภัสสโร จึงขอลาออกจากตำแหน่งเจ้าคณะตำบลบ้านแพง-นาทม จากนั้นพระอาจารย์บุญอุ้ม อาภัสสโร ได้ธุดงค์ข้ามโขงไปยังสปป.ลาว เพื่อฝึกปฎิบัติสมาธิจิตตภาวนาตามรอยหลวงปู่พระมหาเหรียญและหลวงปู่อ่อนศรี ผู้เป็นบิดา ต่อมาจึงได้ศึกษาตำราของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท ที่นายฉลอง เรี่ยวแรง อดีตส.ส.นนทบุรี นำมาถวาย เป็นตำราภาษาขอม มี ๔ หมวด คือกฎหมาย โคลงกลอน ยาสมุนไพร และวิทยาคม ท่านพระอาจารย์บุญอุ้ม ได้เลือกศึกษาในหมวดสุดท้ายคือ หมวดวิทยาคม เริ่มทำตะกรุดแผ่นยันต์และวัตถุมงคลเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๕
    วัตถุมงคลที่สร้างชื่อเสียงให้กับท่านพระอาจารย์บุญอุ้ม อาภัสสโร ซึ่งท่านได้เป็นเจ้าตำรับ คือตะกรุดหนังงูเหลือม ตะกรุดหนังเสือ ตะกรุดไม้ไผ่สีสุก เป็นต้น
    ต่อมาในปี พ.ศ.๒๕๕๑ ทางสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ได้นิมนต์ท่านพระอาจารย์บุญอุ้ม อาภัสสโร จัดสร้างตะกรุดไม้ไผ่สีสุก ทำจากไม้ไผ่สีสุก ลงอักขระปิดแผ่นทองก่อนนิมนต์ท่านพระอาจารย์บุญอุ้ม อาภัสสโร นั่งเฮลิคอปเตอร์ ไปมอบให้เจ้าหน้าที่ทหาร ที่ปฎิบัติหน้าที่ในเขตพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฎิบัติหน้าที่ ในการปกป้องรักษาความสงบเรียบร้อยของประเทศชาติ
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    ลูกอมเทียนชัยหลวงพ่อบุญอุ้ม
    ให้บูชา 200 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20250314_130337.jpg IMG_20250314_130355.jpg
     
  12. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,935
    ค่าพลัง:
    +21,367
    FB_IMG_1597377416007.jpg FB_IMG_1597377287539.jpg FB_IMG_1597377269373.jpg

    ชนวน108 อาจารย์+เนื้อหลวงพ่อมงคลบพิตร อยุธยา ของ อ.อนันต์ สวัสดิสวนีย์
    ชนวนพระกริ่งปวเรศวัดบวรนิเวศ ปี2530
    ชนวนเงินลอยน้ำของอาจารย์เวทย์
    ชนวนทองหล่อพระประธานอุโบสถวัดหนองป่าพงของหลวงพ่อชา
    ชนวนจากแหวนนาคารุ่นแรกมีทองคำผสมในเนื้อ
    ชนวนกริ่งแปดรอบหลวงปู่หงษ์ สุสานทุ่งมน นวะแก่ทองคำ
    ชนวนหล่อพระเจ้าชัยวรมันขนาดตั้งบูชานำฤกษ์ของหลวงปู่หงษ์ สุสานทุ่งมน ผสมทองคำ 27 บาท
    ชนวนพระกริ่งเก่าไม่ทราบรุ่นสายศิษย์วัดประดู่ฉิมพลี
    ชนวนพระกริ่ง 20 จังหวัด
    ชนวนของ ออด อยุธยา ตะกรุด 108 ทุกยุค+กำไลสัมฤทธิ์สมัยขอม หลอมรวมกันมาเป็นแท่งเรียบร้อย
    ชนวนของ ดร.ไมตรี บุญสูง ครั้งหล่อพระประธานวัดป่าโมก และวัดในเตา อธิษฐานจิตโดยคณาจารย์สายใต้ รวมทั้งกริชสำฤทธิ์เก่าและชนวนเก่าที่ ดร.ไมตรี สะสมไว้
    รายละเอียดของชนวน :
    แผ่นจารพ่อท่านนวล วัดใสหล้า
    แผ่นจารพ่อท่านช่วง วัดควนปันตาราม พัทลุง สายเขาอ้อ
    แผ่นจารพ่อท่านเอียด วัดโคกแย้ม
    แผ่นจาร+ตะกรุดนารายณ์พลิกแผ่นดิน พ่อท่านเขียว
    แผ่นจารพ่อท่านท้วมวัดศรีสุวรรณ
    ชนวนเหรียญเก่าคณาจารย์สายภาคใต้น้ำหนักรวมกันหลายโล
    ชนวน 108 ตะกรุดทุกยุค
    หลอมรวมกันเป็นแท่งว้เรียบร้อยแล้ว
    ___
    ประเภทตะกรุด
    ตะกรุดหลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย
    ตะกรุดวัดประสาทบุญาวาสปี2500
    ตะกรุดหลวงพ่อเกษม เขมโก
    ตะกรุดหัวใจพุทธคาถา(19จังหวัด)
    ตะกรุดหลวงปู่ท่อน จ.เลย
    ตะกรุดหลวงปู่ดู่ วัดสะแก
    ตะกรุดหลวงปู่ทองสา
    แผ่นจาร+ตะกรุด ปู่ซาสุด ดอนสำโฮง
    ตะกรุดพระอาจารย์บุนจอน กิดติยาโน ดอนขะเหมา
    ตะกรุดพระอาจานคำพัก พรมมะหาไซ หลัก(กม.)24
    ตะกรุดทองคำ เงิน นาก พระอาจารย์ สะหว่าง สุทัมโม วัดหลัก 33 เมืองปากช่อง แขวงจำปาสัก
    ตะกรุด ลป. หา สุภโร
    ตะกรุด ลป ฤทธิ์ รัตนโชโต สุรินทร์
    ตะกรุด ลพ คูณ ปริสุทโธ วัดบ้านไร่
    ตะกรุดปืนแตก ลป คำบุ คุตตจิตโต อุบลฯ
    ตะกรุดลูกปืนหลวงพ่อมหาสิงห์
    ตะกรุด ลพ เพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน
    ตะกรุดโสฬสมงคล
    ตะกรุดนวภาสิทธิ์
    ตะกรุดมงกุฏพระพุทธเจ้า
    ตะกรุดมะหาระงับ
    ตะกรุดมหาจักรพรรดิ
    ตะกรุดพุทธทำนาย
    ตะกรุดพระอาจารย์นอง วัดทรายขาว
    ตะกรุดพ่อท่านทอง วัดสำเภาเชย
    ตะกรุดนารายณ์แปลงรูปของพระอาจารย์นองวัดทรายขาว
    ____
    ประเภทเหรียญคณาจารย์ทั้งเก่าใหม่
    เหรียญหล่อรูปเหมือนหลวงปู่แสง ญาณวโร รุ่นแสงธรรมเนื้อพิเศษ ผสมทองคำ 27 บาท จำนวน 14 เหรียญ
    เหรียญรุ่นแรกหลวงปู่สรวง เทวดาเดินดิน
    เหรียญรุ่นแรกหลวงปู่หงษ์ สุสานทุ่งมน
    เหรียญสมเด็จพระญาณสังวร สด.พระสังฆราช องที่ 19 แห่งราชอาณาจักรไทย
    เหรียญพระพุทธรูปทองคำ วัดไตรมิตร กทม .
    เหรียญพระพุทธชินราช +รูปเหมือน หลวงตามหาบัว ญานสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด อุดรธานี
    เหรียญ ลป แหวน สุจินโน วัดดอยแม่ปั๋ง เชียงใหม่
    เหรียญ ลป. สิม พุทธาจาโร วัดถ้ำผาปล่อง เชียงดาว เชียงใหม่
    เหรียญ ลป. แว่น ธมปาโล วัดถ้ำพระสบาย
    เหรียญพระสิวะลี + เหรียญ ลป. วัน อุตตโม)
    เหรียญ ลป. จันทร์โสม กิตติกาโร วัดป่านาสีดา
    เหรียญหลวงปู่บุญหนา ธัมมทินโน วป.โสตถิผล
    เหรียญ ลป ผ่าน ปัญญาปทีโป
    เหรียญ ลป สุภา กันตสีโล
    เหรียญ ลป. เกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ ลำปาง
    เหรียญ ลป. แพ วัดพิกุลทอง
    เหรียญ ลป. ลี กุสลธโร ภูผาแดง หลายรุ่น
    เหรียญโชคดี ลป. ดี วัดพระรูป
    เหรียญ ลป. คูบาสร้อย ขันติสาโร
    เหรียญ ลพ. คล้อย ฐานธัมโม วัดถ้ำเขาเงิน อ.หลังสวน จ.ชุมพร
    เหรียญ หลวงพ่อเดช เตชะจิตโต วัดสังฆมงคล
    เหรียญ ลพ. รวย วัดท่าเรือ
    เหรียญ ลพ. เพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน
    เหรียญ ลพ. ยิด วัดหนองจอก
    เหรียญชนะสิบทิศ ลป คำบุ คุดตะจิดโต อุบลฯ
    เหรียญ ลพ เจ็ดกษัตริย์ หลังพระเศรษฐีนวโกฐ
    เหรียญรุ่นต่างๆสายหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
    เหรียญรุ่นต่างๆ วัดพุทธมงคล จ.นครสวรรค์
    เหรียญพระประจำวันเกิด วัดสุทัศน์ กทม.
    เหรียญ ลพ. พิมลสีลาจารย์ วัดลาดปลาดุก
    เหรียญพระราหู เงินขวัญถุง ลป พรหมา เขมจาโร วัดสวนหินผานางคอย อุบลฯ
    เหรียญ ลป. ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล
    เหรียญเสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
    เหรียญพระสยามเทวาธิราช นิตยสารศักดิ์สิทธิ์สร้าง
    ห่วงเหรียญพระกริ่งสิทัตโถ สมเด็จพระสังฆราช อยู่ วัดสระเกศ กทม.
    ห่วงเหรียญ 100 ปี ลป ทวด อจ. ทิม วัดช้างไห้
    ห่วงเหรียญ แม่ชีแก้ว เสียงล้ำ มุกดาหาร
    ห่วงเหรียญ ลป. ปะไพ สุภโร อุดรธานี
    รูปหล่อพระสังกัจจายน์ ลป. เกตุ วัดเกาะหลัก
    รูปหล่อพระสิวลี ครูบา บุญชุ่ม ญาณสํวโร
    เหรียญกษาปน์ เช่น เหรียญ ร.5 หลังพระสยามเทวธิราช เหรียญอินโดจีน เงินพุดด้วง เงินแท่งสยาม เงินโสฬสสยาม ร.4 ฯลฯ ,เงินลาด(ของอาณาจักรล้านช้าง),วัตถุโบราณอื่นๆ
    แหวนพิรอด ลพ. เจริญ ฐานยุตโต อุดรธานี
    แผ่นจารหลวงปู่สุธัมม์ ธัมมปาโล
    แผ่นจารตะกรุด ๑๐๘ ของอาจารย์ปู่ซาสุด โซทิกาน ดอนสำโฮง สปป.ลาว
    แผ่นฮู้จารพระถังซัมจั๋ง,พระอาจารย์ตั๊กม้อ และปฐมภิกษุณีจิงเจียนแห่งแผ่นดินจีน
    แผ่นจารมือหลวงปู่อ่อน วัดลุมพินี
    ตะกรุดหลวงปู่ทองสุข สุทธิจิตโต
    เศษทองหล่อหลวงพ่อโสธร
    เศษทองหล่อพระพุทโธคลัง วัดโคกหม้อ
    ชนวนนวะโลหะ หลวงปู่พิศดู ธัมมจารี
    ชนวนเหรียญพระกีสนาคอุปคุต พ่อท่านผอม
    ตะกรุดพระครูอุทัย อุทโย วัดวิหารสูง
    ตะกรุดหลวงพ่อหวล วัดพิกุล
    ตะกรุดนวภาสิทธิ ครูบาข่าย ญาณเมธี วัดหมูนิ้ง
    ตะกรุดหลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ
    ตะกรุดหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
    ตะกรุดหลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม
    ตะกรุดสาริกาอาจารย์ประสูติ
    ตะกรุดหลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน
    ตะกรุดหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ
    เหรียญรุ่นแรกหลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ
    เหรียญหลวงพ่อยิด วัดหนองจอก
    เหรียญหลวงพ่อรวย วัดท่าเรือ
    เหรียญพระครูทัน นะพามีฟอง สปป.ลาว
    เหรียญหลวงปู่บุนมี กิดติธัมมาวโน วัดลาวพุดทะวง สปป.ลาว
    เหรียญหลวงปู่เปลี้น วัดชอนสารเดช
    เหรียญหลวงพ่อสมชาย วัดเขาสุกิม
    เหรียญหลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง
    เหรียญหลวงพ่อฤษีลิงดำ วัดท่าซุง
    เหรียญกษาปน์อินโดจีน
    เงินฮางโบราณ
    พระโคนสมอห้อยพระบาท ( ชินเงิน )
    3/ ผงพระวัดพุทธมงคล นครสวรรค์ ปี 2510 ผ่านการอธิษฐานจิตและปลุกเสกโดยคณาจารย์สายหลวงปู่มั่นดังนี้ :
    หลวงปู่ฝั้น อาจาโร
    หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ
    พระอาจารย์วัน อุตตโม
    หลวงปู่สิม พุทธาจาโร
    หลวงปู่บุญมา ฐิตเปโม
    หลวงปู่เจี๊ยะ จุนฺโท
    หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
    หลวงปู่โชติ คุณสมฺปนฺโน
    หลวงปู่ขาว อนาลโย
    หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ( สวดลักขี )

    ผงมวลสารที่ใช้อุดด้านหลังเหรียญพระแก้ว
    อธิษฐานจิตโดย
    หลวงปู่ฝั้น อาจาโร
    หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ
    พระอาจารย์วัน อุตตโม
    หลวงปู่สิม พุทธาจาโร
    หลวงปู่บุญมา ฐิตเปโม
    หลวงปู่เจี๊ยะ จุนฺโท
    หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
    หลวงปู่โชติ คุณสมฺปนฺโน
    หลวงปู่ขาว อนาลโย
    หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ( สวดลักขี )
    4/ ผงหลวงปู่จันทร์ เขมิโย วัดศรีเทพฯ (ผงโสฬสมหาพรหม ของพระครูสีทัตต์ สุวรรณมาโจ ชุดที่นำมาสร้างพระนางพญาหลวงปู่จันทร์)
    5/ ผงพระสองสมเด็จ ปี 2538 ประกอบด้วยใบลานลงอักขระ 999 แผ่น โดยคณาจารย์ทั่วประเทศ ณ ห้วงเวลานั้น
    รวมทั้งมวลสารวิเศษอีคกหลายชนิด เช่น :
    ว่าน 108
    ข้าวก้นบาตร หลวงปู่เทสก์ วัดหินหมากเป้ง
    ก้นยาหลวงปู่ดูลย์ วัดบูรพาราม
    ก้นยาและยาเส้นหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่
    ข้าวสารเทวดาครูบาธรรมชัย
    เส้นเกษาหลวงปู่สิม
    แป้งเสกหลวงปู่บุดดา
    น้ำมันงาและผงวิเศษครูบาสุรินทร์ วัดศรีเตี้ย
    ฯลฯ
    ผงพระสองสมเด็จทั้งหมดนี้ได้รับการอธิษฐานจิตและปลุกเสกโดยพระอาจารย์องค์สำคัญแห่งยุคปี ๓๐ เช่น :
    ครูบาเจ้า เกษม เขมโก
    หลวงปู่คร่ำ ยโสธรา
    หลวงปู่แพ เขมังกโร
    หลวงพ่ออุตตมะ อุตตโม
    หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ
    สมเด็จพระมหาธีราจารย์
    พ่อท่านนอง ธัมภูโต วัดทรายขาว
    หลวงปู่หยอด ชินวังโส
    หลวงพ่อเปิ่น ฐิตคุโณ
    หลวงปู่คำพันธ์ โฆษปัญโญ
    หลวงปู่คำ วัดหนองแก
    หลวงปู่ทองเบิ้ม วัดวังยาว
    หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก
    หลวงปู่เกตุ วัดเกาะหลัก
    หลวงพ่อคล้อย วัดถ้ำเขาเงิน
    หลวงพ่อเก๋ วัดแม่น้ำ
    หลวงพ่อลำไย วัดทุ่งลาดหญ้า
    หลวงปู่ร่วง วัดศาลาโพธิ์
    หลวงพ่อฮวด วัดดอนโพธิ์ทอง
    หลวงปู่เมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา
    หลวงพ่อศรีเงิน วัดดอนศาลา
    หลวงพ่อกลั่น วัดเขาอ้อ
    พ่อท่านแดง วัดควนนางพิมพ์
    หลวงพ่อคล้อยวัดภูเขาทอง
    หลวงปู่ดี วัดพระรูป
    ฯลฯ
    6/ ผงพระสมเด็จรุ่นแรกวัดแก่งตอย ได้รับการอธิษฐานจิตและปลุกเสกโดย :
    หลวงปู่คำพันธ์ โฆษปัญโญ วัดธาตุมหาชัย
    หลวงปู่กิ ธัมมุตฺตโม วัดป่าสนามชัย
    ญาท่านสวน ฉันทโร วัดนาอุดม
    ฯลฯ
    7/ ผงวิเศษผ่านการอธิษฐานจิตปลุกเสกโดยคณาจารย์ยุคปี ๑๐ เช่น :
    หลวงปู่ชา วัดหนองป่าพง
    หลวงปู่ดูลย์ วัดบูรพาราม
    หลวงปู่สาม วัดไตรวิเวก
    หลวงปู่ฝั้น วัดป่าอุดมสมพร
    หลวงปู่สิม วัดถ้ำผาปล่อง
    หลวงปู่บาง วัดหนองพลับ
    หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
    หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี
    หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง
    หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง
    หลวงพ่อผาง วัดอุดมคงคาคีรีเขตต์
    หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
    หลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลา
    หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม
    พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา
    หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่
    หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย์
    หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม
    หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน
    หลวงพ่อหมุน วัดเขาแดง
    หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค
    หลวงพ่อโด่ วัดนามะตูม
    หลวงพ่อหอม วัดซากหมาก
    หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส
    หลวงพ่อทบ วัดชนแดน
    หลวงพ่อโอด วัดจันเสน
    หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง
    หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน
    หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู
    หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ
    หลวงพ่อแจ่ม วัดวังแดงเหนือ
    หลวงพ่อฑูรย์ วัดโพธิ์นิมิตร
    หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง
    หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช
    ครูบาวัง วัดบ้านเด่น
    หลวงพ่อปี้ วัดลานหอย
    หลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง
    หลวงพ่อเมือง วัดท่าแหน
    หลวงพ่อผัน วัดราษฏร์เจริญ
    หลวงพ่อเชน วัดสิงห์
    หลวงพ่อ คร้าม วัดกุ่มหัก
    ฯลฯ
    8/ ธุลีดินอิฐศิลาอโรคยาศาลา
    พระธาตุเชิงชุม
    ปราสาทตาเมือน
    ปราสาทจอมพระ
    ปราสาทโต๊ะโม๊ะ (จำปาสัก ลาว)
    ปราสาทธาตุนางพญา
    ปราสาทสระกำแพงน้อย
    ปราสาทบ้านช่างปี่
    ปราสาทบ้านเบญจ์
    ปราสาทปรางค์กู่
    ปราสาททองหลาง
    ปราสาทตาเมือนธม
    ปราสาทสมอ(ทามจาน)
    9/ ผงหลายร้อยอาจารย์มากมหาอนันตังทั้งรุ่นเก่าใหม่ ซึ่ง อำพล เจน สะสมไว้นานปี จารนัยไม่ไหว
    10/ ผงของครูบาอาจารย์ทั่วไปทั้งที่รวบรวมเองและผู้มีจิตศรัทธามอบให้
    ผงหลวงพ่อชา สุภัทโธ
    ผงหลวงปู่บุญมา ฐิตเปโม
    ผงหลวงพ่ออุตตมะ
    ผงฤษีไม้จันทร์หอม (อ.อนันต์ มอบให้)
    ผงอิทธิเจเขียนลบ ๘๔๐๐๐ ครั้งของหลวงปู่พรหมา เขมจาโร
    ก้นยาสูบ อ.ปู่ซาสุด
    ชานหมากหลวงปู่ทูล ขิปปปัญโญ
    ชานหมากหลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ
    ชานหมากหลวงปู่บุญเพ็ง วัดถ้ำกลองเพล
    ชานหมากหลวงปู่ทิม วัดพระขาว
    ปูนเสกคุณแม่ชีบุญเรือน โตงบุญเติม
    ทรายทองคุณแม่ชีบุญเรือน โตงบุญเติม
    ผงพระ ๓ อริยสงฆ์ (มีส่วนผสม ๑๓๘ อย่าง เช่น สรีระหลวงปู่สี วัดถ้ำเขาบุนนาก)
    ผงพระนางพญาทิพย์สุวรรณรุ่นแรก
    ผงพุทธคุณหลวงปู่ดู่วัดสะแก
    ข้าวก้นบาตรหลวงปู่สุภา กันตสีโล
    ข้าวก้นบาตรหลวงปู่หล้า เขมปัตโต
    ข้าวก้นบาตรหลวงปู่เปลี้ย วัดชอนสารเดช
    ไม้กุฏิหลวงพ่อกบ วัดเขาสาลิกา
    ดินจากสถานที่เข้าฌานของพระกกุสันโท,พระกัสสปะและพระพุทธเจ้า
    ผงไม้จันท์หอมพระเมรุมาศพระเจ้าอยู่หัว ร.๙
    ผงขุยนาคราชพระสายหลวงปู่มั่นแถบริมน้ำโขงมอบให้ (ผ่านการตรวจโดยหลวงพ่อชื่น วัดตาอี กับ หลวงปู่หงษ์ วัดเพชรบุรี ได้ความตรงกัน)
    ผงหลวงปู่ชื่น วัดตาอี ๑พันยันต์
    ผงหลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง
    ผงสายเสด็จปู่ท้าวมหาพรหมาธาดา
    ผงปถมัง อ.ชุม ไชยคีรี
    ผงหลวงพ่อสละ วัดประดู่
    ผงญาท่านสวน วัดนาอุดม
    ผงตะไปพระกริ่งวัดสุทัศน์
    ผงเจ้าน้ำเงินพ่อท่านเอียด วัดเขาอ้อ
    ผงตะไบตะปูสังขะวานรวัดพระแก้ว และ วัดสุทัศน์
    ผงยอดบายศรีหลวงปู่หงษ์ วัดเพชรบุรี
    ผงชันเพชร (อ.อนันต์ มอบให้)
    ผงธูปโบสถ์พรามหณ์ เสาชิงช้า
    ผงไก่ฟ้าพญาเลี้ยง หลวงปู่สรวง วรสุทโธ
    ผงตะไบชนวนหล่อพระประธานของ ดร.ไมตรี บุญสูง
    ผงตะไบพระกศปมหาฤษีรุ่นแรก หลวงปู่ทองสา
    แป้งเสกหลวงปู่บุดดา ถาวโร วัดกลางชูศรีเจริญสุข
    ผงพระธาตุพนม
    ทรายเสกหลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม
    ทรายเสกหลวงปู่เปลี้ย วัดชอนสารเดช
    ทรายเสกหลวงปู่ทิม วัดพระขาว
    พระว่านจำปาสักแตกหัก
    ผงแร่เกาะล้านของหลวงปู่อ่อน วัดลุมพินี
    ผงแร่บางไผ่สายวัดโมลี (จำผู้ที่มอบให้มาไม่ได้)
    ดินกากยายักษ์
    ผงไม่จันท์หอมหลวงพ่ออุตตมะ
    ผงนิลกาฬหลวงพ่ออุตตมะ
    ผงพระสมเด็จรุ่นแรกหลวงปู่พรหมา ปี ๒๕๓๔
    ผงพระฤษีรุ่น ๒ (ฤษีเล็ก)หลวงปู่พรหมา ปี ๒๕๓๕
    ผงพระฤษีรุ่น ๓ (ฤษีกลาง)หลวงปู่พรหมา ปี ๒๕๓๕ (มีเกษาหลวงปู่ผสมอยู่ด้วยค่อนข้างเยอะ)
    ผงชานหมากหลวงปู่หงษ์วัดเพชรบุรี (มีเกษาผสมอยู่ด้วย)
    ผงเจ้าคุณอุบาลีสิริจันโทวัดบรมนิวาส
    ผงหลวงปู่แหวนชุดที่นำมาสร้างรูปเหมือนนหน้าตัก ๒ นิ้ว ถวายสมเด็จพระสังฆราชเจริญ
    ผงปถมัง หลวงปู่ชอบ ฐานสโม
    ผงพระชำรุดแตกหักหลวงปู่คำพันธ์
    ผงว่านหลวงปู่แพงตา เขมิโย
    ปฐวีธาตุหลวงปู่แสง ญาณวโร
    ผงพระพุทธนิรามัย กระทรวงสาธารณสุข ปี ๒๕๔๓
    ผงพระแก้วมรกต พิธี ๒๕ ศตวรรษ (พศ.๒๕๐๐)
    ผงสาลิกาทิพย์สุวรรณ
    ผงหลวงปู่ทอง วัดสามปลื้ม
    ลูกอมมหากัณห์ หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อมฯลฯ
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    พระแก้วช่วยไทย
    ได้บูชา 450 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20250314_145842.jpg IMG_20250314_145919.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...